หัวอกแม่! ลูกชายถูกยิงจนพิการ 2 ปียังจับคนร้ายไม่ได้

หัวอกแม่! ลูกชายถูกยิงจนพิการ 2 ปียังจับคนร้ายไม่ได้

แม่ร้องกองปราบฯลูกชายถูกยิง จนพิการเดินไม่ได้ ผ่านมา 2 ปียังจับคนร้ายไม่ได้ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.อินทิรา ชื่นเรณู อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยชัย รอง ผกก.5 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุม นายกิตติพงศ์ สังข์แก้ว หรือตาน้อย อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 206/2558 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังจากก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงบุตรชาย คือ นายชานน มณีรัตน์ อายุ 16 ปี (ขณะเกิดเหตุอายุ 14 ปี) จนต้องพิการเดินไม่ได้ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และแม้ว่าศาลจะออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีที่เกิดขึ้น

น.ส.อินทิรา กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเมื่อกลางดึกวันที่ 5 กรกฎาคม 2558 บุตรชายได้เดินทางไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ลืมไว้บ้านเพื่อน ที่ย่านตลาดใน ด้านหลังหอสมุด ซอย 2 ต.ปากแพ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แต่ระหว่างยืนคุยอยู่กับเพื่อนบริเวณหน้าบ้าน เป็นจังหวะที่มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6 คน ขับจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี แล้วมาจอดรถขอบุหรี่สูบ แต่บุตรชายตนตอบไปว่าไม่มี และบอกว่ามีแต่ใบจาก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะทำให้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจ ถึงกับขู่ว่ามาเที่ยวแถวนี้ก็ระวังตัวไว้ให้ดี ก่อนที่หนึ่งในคนร้ายจะชักปืนออกมายิงใส่ โดยครั้งแรกจ่อมาที่ขมับขวาของบุตรชาย แต่โชคดีที่ยิงไม่ออก

น.ส.อินทิรา กล่าวต่อว่า จากนั้นบุตรชายรีบถอยห่างออกมา แต่คนร้ายยังจ่อปืนใส่แล้วลั่นกระสุน จนถูกเข้าที่บริเวณชายโครงขวา เมื่อบุตรชายล้มลง ทั้งหมดจึงพากันหลบหนีไป ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเพื่อนของบุตรชายได้รีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย พาส่ง รพ.ทุ่งสง แต่ภายหลังเข้ารับการรักษา บุตรชายก็ต้องพิการเดินไม่ได้ เนื่องจากกระสุนไปตัดเส้นประสาท คดีที่เกิดขึ้นนอกจากได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ทุ่งสง แล้ว ตนยังเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.นครศรีธรรมราช ด้วย แต่เวลาผ่านมากว่า 2 ปี ก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ป.ในครั้งนี้ เพื่อขอให้ตำรวจ บก.ป.ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกทางหนึ่ง