ผัวป่วยมะเร็ง ฆ่าเมียสาวคาราโอเกะคาห้องพัก คาดหึงหวง
ผัวป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ฆ่าโหดเมียสาวหน้าตาดีทำงานกลางคืน คาดเกิดหึงหวงลูกค้าติดพัน ก่อนรัดคอ แทงซ้ำใต้คอหอยลึก 13 ซม. จนเสียชีวิตคาเตียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น วันนี้ (23 พ.ย. 60) ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ปัญญาดี รอง สว.สส. สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักไม่มีชื่อ เลขที่ 45/2 หมู่ 6 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ คาดว่าถูกฆาตกรรมนอนจมกองเลือด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน โดยภายหลังรับแจ้งเหตุจึงได้เร่งรุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ และทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งแพทย์นิติเวช
ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ปัญญาดี รอง สว.สส. สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าไม่มีชื่อ ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นห้องแรกและยังปิดล็อคกุญแจจาก ภายนอกอยู่ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยตัดแม่กุญแจเพื่อเข้าไปในห้องพักดังกล่าว ภายในห้องพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลัง คือ นางสาวรัติพรรณ มณีผ่อง หรือน้องยิ้ม อายุ 26 ปี ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ภายในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสันกำแพง (ร้านสบายสบาย) ถนนสายวัฒนธรรมเชียงใหม่-สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สภาพศพพบว่าถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณลำคอใต้คอหอย 1 แผล ลึก 13 เซนติเมตร และพบว่ามีร่องรอยของการใช่เชือกไนล่อนรัดคอ เสียชีวิตอยู่บนที่นอน และศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าภายในห้อง โดยจากการตรวจชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุของทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในห้องที่พบศพนั้น พบว่ามีอาวุธมีด และเชือกไนล่อน ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตกในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายถูกแช่อยู่ในน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน และจากการสืบสวนเบื้องต้น ทราบแล้วว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายประชา มุลนี อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต คาดว่า ผู้ต้องหานั้นได้ลงมือก่อเหตุในช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาแล้วหลบหนีไป ก่อนจะโทรศัพท์มาแจ้งกับแม่ของผู้ตายว่า ได้ทำการฆาตกรรมผู้ตายแล้ว
โดยจากการสอบปากคำ นางนวลฉวี คำแสน แม่ของผู้ตาย ซึ่งมีบ้านอยู่ใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่กำลังอยู่ในสภาพเศร้าโศกเสียใจและช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นลมล้มพับไป ก่อนจะตั้งสติและให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ลูกสาวได้แต่งงานอยู่กินกับนายประชา มุลนี อายุ 46 ปี ที่เคยทำงานรับเหมาก่อสร้าง แต่ปัจจุบันป่วยเป็นมะเร็งในช่องท้องระยะสุดท้าย ต้องนอนอยู่แต่ห้องพัก ส่วนภรรยาต้องไปทำงานร้านอาหารในตอนกลางคืนเพื่อหาเงินใช้จ่าย ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ก่อนพบศพ นายประชาได้โทรศัพท์มาหาตนว่าได้ฆ่าลูกสาวหมกไว้ในห้องพัก ขอให้ไปจัดการศพด้วย แล้วจะเข้าไปมอบตัวกับตำรวจเอง ก่อนที่จะวางสายไป ทำให้ตนเกิดความตกใจอย่างมาก ก่อนที่จะได้ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ตรวจสอบที่ห้องพักและพบศพลูกสาวตัวเองถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมดังกล่าว
ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนหน้าตาดี และเป็นสาวทำงานร้านคาราโอเกะ โดยที่ผ่านมานั้นผู้เสียชีวิตมักจะมีผู้ชายมาพูดคุยติดพัน จึงทำให้ฝ่ายชายที่เป็นสามีนั้นเกิดความหึงหวง และสาเหตุที่ฝ่ายชายผู้ก่อเหตุนั้นได้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน คาดว่าเป็นปมที่ทำให้กลัวว่าฝ่ายหญิงนั้นจะตีตัวออกห่าง และอาจพบหลักฐานการพูดคุยกับลูกค้าในโทรศัพท์มือถือ จึงทำให้ฝ่ายชายตัดสินใจลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม แล้วขับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียนหลบหนี ไปดังกล่าว
อย่างไรก็ตามความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น. ของวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ทำการตั้งจุดตรวจสกัดครอบคลุมทั่วพื้นที่ กระทั่งสามารถทำการติดตามจับกุมตัว นายประชา มุลนี ผู้ลงมือก่อเหตุได้แล้ว ขณะเจ้าตัวกำลังขนสัมภาระขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด ซึ่งคาดว่าน่าจะหลบหนีเพื่อไปกบดานหลังจากที่ได้ลงมือก่อเหตุไป โดยทางเข้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สันกำแพง แล้วก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คาดว่าจะได้มีการควบคุมตัวทำแผนรับสารภาพในเร็ววันนี้