พ่อแม่ผอ.อ้อย จี้ลงโทษประหาร 'ผู้กองเหน่ง'

พ่อแม่ผอ.อ้อย จี้ลงโทษประหาร 'ผู้กองเหน่ง'

พ่อแม่ผอ.อ้อย จี้ลงโทษประหาร "ผู้กองเหน่ง" ลั่นศพแลกศพจึงจะสมกับความผิดของทหาร

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่บ้านเลขที่ 83 บ้านซำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหม่ของ ผอ.อ้อย หรือ นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ที่สร้างไว้ก่อนที่จะถูกอุ้มฆ่าอย่างเหี้ยมโหด ภายหลังจากที่ นายบุญเลิศ–นางแหลม อุ่นอ่อน บิดา–มารดา ได้ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไปแม้จะยังสร้างไม่เสร็จ 100% แต่มันก็คือบ้านของลูกสาว และครอบครัว ที่ลงทุนกู้เงินมาจากทุกภาคส่วนเพื่อมาสร้างให้พ่อแม่ ซึ่งหมดเงินไปมากกว่า 3 ล้านบาท พร้อมกับการที่ ผอ.อ้อย หายตัวไป ภายใต้ความกดดัน

นายบุญเลิศ กล่าวว่า มั่นใจว่านายทหารอุ้มนำไปฆ่าทิ้ง ก็ได้พยายามที่จะค้นหาติดตามหาร่างมาตลอด หมดเงิน หมดทองที่สะสมไว้ไปมากกว่าล้านบาท เงินที่เก็บสะสมไว้ พร้อมกับกู้ยืมมาจากเพื่อนบ้านก็ต้องยืม เพื่อการติดตามหาร่างลูกสาว สุดท้ายพบมั่นใจเป็นลูก ก็จะต้องมาลุ้นว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถเอาผิดได้มากขนาดไหน และก่อนที่จะลุ้นว่าจะเอาผิดได้ขนาดไหน วันนี้ก็จะต้องส่งคนไปเฝ้าที่เรือน ศาลกันทรลักษ์ ว่าจะมีคนมาประกันตัว และศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้หรือไม่ ส่วนฐานความผิด แม่อยากให้ประหารอย่างเดียว

แม่แหลม แม่ของผอ.อ้อย กล่าวว่า แม้ว่าวันนี้บ้านจะยังไม่แล้วเสร็จ 100% ก็ตาม แต่มันก็คือบ้านของ ผอ.อ้อย ผู้เป็นลูกสาว ที่ตั้งใจสร้างให้ตนเอง พ่อบุญเลิศ และลูกสาวของเขา สามีของเขา จะได้อยู่อาศัยร่วมกัน ถึงมันจะไม่เสร็จสมบูรณ์ ก็พร้อมที่จะมาเก็บเศษไม้ เศษเหล็ก อิฐ ปูน ทำความสะอาดไปตามแรงของตนเอง เพื่อที่จะได้พักผ่อนนอนที่บ้านใหม่ของลูกตน ด้วยความคิดถึงลูก ส่วนเรืองการเอาผิดแก่นายทหาร ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง ที่ตอนนี้ได้ติดคุกอยู่ก็ตาม แต่ไม่กี่วันก็อาจจะหลุดรอดออกมา ก็ต้องเชื่อมั่นใจความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในความคิดส่วนตัวของตนนั้น อยากให้ประหารชีวิตผู้กองเหน่งเลย เพราะโหดเหี้ยมมาก ในการฆ่าลูกสาวตน ชิ้นส่วนศพกระจายอยู่ทั่วป่า ซุกซ่อนศพ อุ้มไปฆ่า ทั้งที่ลูกสาวตนมีบุญคุณในการให้ยืมเงินไปใช้หนี้หลวง ที่ตนเองแอบเอาเงินหลวงไปใช้จ่าย เล่นการพนัน ติดการพนันแบบถอนตัวไม่ขึ้น ฐานความผิดของเขา มันต้องศพแลกศพ กันเลย หมายความว่า ลูกตนถูกฆ่าตาย เขาก็จะต้องถูกฆ่าตายตามกันไป ไม่เช่นนั้นวิญญานลูกสาวคงไม่เป็นสุขแน่นอน แต่อย่างไรก็จะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาล ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย