โบรกคาด'ฟันด์โฟลว์'ไหลเข้าหุ้นไทย

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญของสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนทั้งต่างชาติและสถาบันในประเทศที่คาดว่าจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย โดยได้ปัจจัยบวกหลักๆ คือการเมืองที่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและกำไรของตลาด ซึ่งจากทิศทางของดัชนีฯ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในทางบวกของตัวแปร คือ เรื่องการกำหนดเลือกตั้งที่ชัดเจนรวมถึงตลาดหุ้นไทยอยู่ในสภาวะที่ถูกให้น้ำหนักการลงทุนน้อย(Underweight) มาตั้งแต่ต้นปี

แรงซื้อที่เข้ามาพร้อมๆกันในหุ้นหลายตัว (หุ้นที่บวกมากกว่า ดัชนีประมาณ 9% มีถึง 30% ของตลาด) จึงดันให้ดัชนีวิ่งไปได้ไกล นั่นทำให้ บล. ประเมินจุดสูงสุดของดัชนีฯรอบนี้ ว่ามีโอกาสไปได้ถึง 1,758 จุด หรือคิดเป็น Forward P/E ของกำไรปีนี้หรือปีหน้าที่ 17.9 และ 16.5 ตามลำดับ

ซึ่งจะใกล้เคียงกับเป้า ดัชนี ปี2561 ประเมินไว้ที่ 1,764 จุด แต่อาจมีการปรับเป้าดัชนีฯปีหน้าอีกครั้ง หากภาวะเศรษฐกิจ-การลงทุน เศรษฐกิจต่างประเทศ และกำไรตลาดนั้นดีกว่าที่คาดไว้ที่ 11%

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ มีน้ำหนักไม่มากนักประเด็นที่ควรให้ความสนใจ คือความคืบหน้าการเลือกประธาน เฟด คนใหม่ และกฎหมายภาษีของสหรัฐฯ

ขณะที่ตัวเลข จีดีพี ของจีนที่จะมีการประกาศในวันที่ 19 ต.ค. ถ้าตัวเลขออกมาดี จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอื่นๆด้วย

ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ คาดว่าแนวโน้มดัชนีฯยังมีโอกาสเดินหน้าต่อ แต่จะเป็นลักษณะการขึ้นสลับพักตัว โดยเป้าสูงสุดรอบนี้บล.คาดไว้ที่ 1,758 จุด ตัวแปรสำคัญ คือ การเมืองและกำไรของตลาดหุ้นที่ขยายตัวดี หรืออาจดีกว่าคาดในปี 2018 ด้านตัวแปรต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วเป็นบวกต่อตลาด โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดี แต่คงต้องจับตาดูสหรัฐฯ ทั้งเรื่องของกฎหมายภาษีและการเลือกประธาน เฟด คนใหม่

"แรงส่งของ เงินทุนต่างชาติเพราะตลาด Laggard มานานยังมีต่อ เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นต่อไปได้ หรือเข้าซื้อเพิ่ม แต่ควรเลือกหุ้นที่ยังปรับตัวขึ้นมาไม่มากนักและเป็นหุ้นที่บวกจาก เงินต่างชาติ ไว้ก่อน คือต้องมีการซื้อแบบ เลือกเป็นรายตัว (selective buy) มากขึ้น และเปลี่ยนตัวจากหุ้นที่ขึ้นมามากไปเป็นหุ้นที่ขึ้นน้อยกว่า มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,700-1,730 จุด"