แจงผลดีเอ็นเอเอาผิด 'รองผู้การฯ' ที่พายิ่งลักษณ์หนีไม่ได้!!

กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ภ.จว.ปัตตานี) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้ส่งรายงานผลตรวจดีเอ็นเอ ในรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี ที่ระบุว่า ได้ลักลอบพานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยัง จ.สระแก้ว โดยพบว่า นอกจากพบดีเอ็นเอของพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล5 ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาล5 และพ.ต.ท.สามมิตร ไชยอิ่นคำ สารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม บริเวณที่นั่งคนขับและพวงมาลัยอย่างชัดเจนแล้ว

ในส่วนของที่นั่งด้านหลังนั้น กองพิสูจน์หลักฐานรายงานว่า มีดีเอ็นเอของผู้คนจำนวนมากทั่วบริเวณทั้งเบาะหลังและประตู จนไม่สามารถเปรียบเทียบยืนยันตัวบุคคลได้ว่า ดีเอ็นเอตรงกับของนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือไม่ ทำให้ในทางสืบสวนตนไม่สามารถไปร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157กับพ.ต.ท.ชัยฤทธิ์ ได้ เนื่องจากมีเพียงคำให้การของผู้ต้องหาเท่านั้น ไม่มีพยานหลักฐานอื่น อย่างไรก็ตาม หากพนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพิ่มเติม หรือผู้ใดสามารถหาหลักฐานเพิ่มเติม และมีหลักฐานก็ไปกล่าวโทษ ก็เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการ

"แต่ในทางสืบสวน ตนไม่สามารถไปกล่าวโทษในข้อหา ม.157 ได้ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ในความผิดอื่นๆที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ต้องดำเนินการต่อไป ขณะที่การสืบสวนยังไม่ถึงทางตัน ยังคงสืบสวนหาคนต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องในการพานางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนี รวมถึงรถต้องสงสัย ทั้งรถเบนซ์ และรถปิกอัพที่มีการระบุถึง หากพยานหลักฐานพาดพิงไปถึงใครอีกก็ต้องดำเนินการทั้งหมด" รองผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบที่อยู่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้สอบถามไปยังกองการต่างประเทศ ให้ประสานตำรวจสากล ก็ยังไม่มีการยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในอังกฤษหรือไม่ มีเพียงข้อมูลล่าสุดที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปอังกฤษ เมื่อวันที่11 กันยายน ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามย้ำ ผ่านช่องทางตำรวจสากลอีกครั้งในวันนี้ ยอมรับว่าในส่วนของตำรวจ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการขอลี้ภัย และตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นแต่อย่างใด เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจติดตามในส่วนคดีอาญา และการออกหมายจับเท่านั้น ส่วนการออกหมายน้ำเงินและหมายแดงของตำรวจสากลนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า เราคงเร่งรัดไม่ได้ เพราะเป็นดุลพินิจขององค์การตำรวจสากล