มทภ.1ชี้อย่าด่วนสรุปโยงการเมือง คดีระเบิดตู้เอทีเอ็มกลางดึก

มทภ.1ชี้อย่าด่วนสรุปโยงการเมือง คดีระเบิดตู้เอทีเอ็มกลางดึก

"แม่ทัพภาคที่1" ขออย่าด่วนสรุปเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 จะเกี่ยวโยงการเมือง ชี้อาจเป็นการปล้นก็ได้ ขอเวลาจนท.ทำงาน-เกิดความรอบคอบ หวั่นโดนกล่าวหาจับแพะ

กองทัพภาคที่ 1 - พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็มหน้สห้างสรรพสินค้า ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานและยืนยันว่าเป็นระเบิดแน่นอน แต่ขณะนี้ต้องดูเจตนาว่ามีจุดประสงค์อะไร ซึ่งเบื้องต้นได้มีการติดตามกล้องวงจรปิด ซึ่งตำรวจกำลังตามดูอยู่ว่าจะระเบิดเกิดขึ้นตอนไหน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น ขอให้รอผลการสืบสวน อย่าไปเพิ่งด่วนสรุป ซึ่งอาจจะเป็นการปล้นก็ได้ ในส่วนของตนยังไม่ลงความเห็นหรือข้อสรุปใดๆ เนื่องจากเป็นการระเบิดตู้เอทีเอ็ม สามารถตีความสาเหตุไปได้หมด

พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลฝ่ายข่าวกรองและของตำรวจขณะนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานไปก่อนเมื่อรายงานผลมาตนก็จะนำผลไปรายงาน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และก็คงจะรายงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรวมถึงนายกรัฐมนตรีต่อไป ทุกอย่างยืนยันว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นอะไร หรือไปโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองคงยังไม่ใช่

พล.ท.อภิรัชต์ ยังเปิดเผยต่อว่า ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 เราได้ให้ข้อมูลไปหมด ทั้งเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็มหน้าห้างสรรพสินค้า ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 และเส้นทางการหลบหนีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หน่วยข่าวทั้งหมดมาจากหลายหน่วยงาน จะต้องมีการประมวลภาพข่าวว่าเป็นไปตามทิศทางใดรวมถึงความเป็นไปได้ เพื่อมากลั่นกรองอีกครั้ง ทั้งในส่วน สปท.ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ก็นำข่าวต่างๆมาประมวลบางอย่างยังสรุปไม่ชัดเจนขอเวลาให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจการทำงานของรัฐบาล

"ไม่ใช่รีบไปจับใครมา ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรอบคอบในการติดตามคดีในเหตุการณ์ต่างๆ เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่าไปจับแพะจับแกะซึ่งไม่ใช่ ขอให้เห็นใจ ผมเชื่อว่าในไม่ช้าการประมวลภาพข่าวจะเรียบร้อยและจะทราบข้อเท็จจริง ขณะนี้ขอให้ทุกอย่างเดินไปตามที่ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการ" มทภ.1 กล่าว