'บิ๊กป้อม'สั่งเร่งจับคนร้ายปล้นรถทำคาร์บอม

'บิ๊กป้อม'สั่งเร่งจับคนร้ายปล้นรถทำคาร์บอม

"พล.อ.ประวิตร" เผยเจ้าหน้าที่จับคนร้ายบุกปล้นเต้นท์รถเตรียมคาร์บอมได้แล้ว 4 ราย พร้อมเร่งยึดคืนรถอีก 1 คัน ด้าน "บิ๊กโด่ง" คาดบีอาร์เอ็นก่อเหตุ

ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปล้นเต้นท์รถยนต์ที่จ.ปัตตานี เพื่อนำไปก่อเหตุความรุนแรง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เตรียมระเบิด และไปก่อเหตุปล้นรถดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่อหังการมาก แต่ทางเจ้าหน้าสามารถจับกุมรถที่ปล้นมาได้เกือบหมด เหลือ 1 คันที่อยู่ระหว่างดำเนินการยึดรถคืน ทั้งนี้การก่อเหตุของกลุ่มดังกล่าว อย่าไปมองว่ามีช่องโหว่ เพราะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) กว้าง ซึ่งพื้นที่ก่อเหตุใครจะไปคิดว่าจะลงมือที่ จ.สงขลา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาท เพราะหลังเกิดเหตุเราได้สกัดจับ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ กลุ่มเก่า โดยชี้ตัวผู้ต้องหาได้ 4 คน ขณะที่มาตรการการป้องกันความรุนแรง เราเตรียมการได้ดีอยู่แล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และจ.นราธิวาส จนทำให้ผูก่อเหตุเปลี่ยนมาก่อเหตุ ที่ อ.เทพา จ.สงขลา แทน

"เจ้าหน้าที่ทำทุกอย่างไม่ให้มีการก่อเหตุ ทำให้ พื้นที่ จชต.ไม่สามารถก่อเหตุได้ หากเจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้เขาจะไปก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ผมอยากให้ผู้สื่อข่าวชมเชยเจ้าหน้าที่บ้างที่ตั้งใจทำงาน ส่วนผู้ร่วมกระบวนการก่อเหตุทั้งหมดเราจะสอบสวน เพื่อจับกุมตัวให้ได้ต่อไป" พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนจ้องก่อเหตุรุนแรง และคิดวิธีการก่อเหตุที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ โดยเราเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมรับมือวิธีการพวกนี้ไว้ด้วย เพราะการก่อเหตุใหม่ๆครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และพวกที่ก่อเหตุยังมีตัวตนอยู่ ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามตนขออภัยว่าบางพื้นที่มีช่องโหว่ ช่องว่างที่ผู้ก่อเหตุจะหาจังหวะลงมือทำ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามดูแลอุดช่องว่างเหล่านี้ แต่ผู้ก่อเหตุก็สามารถทำได้ เพราะพื้นที่ จชต. และ4 อำเภอ จ.สงขลา มีพื้นที่กว้าง

เมื่อถามว่าทำไมกลุ่มผู้ก่อความรุนแรง จึงพลิกแพลงหาวิธีการก่อเหตุ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เขาพยายามหาวิธีการต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งจริงๆเต้นท์ขายรถมือสองมีอยู่ทั่วไป ดังนั้นทางเจ้าหน้าต้องเพิ่มความระมัดระวังตรงนี้ด้วย เพราะพล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามอีกว่า การก่อเหตุเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอเงินสนับสนุน ต่างประเทศ รมช.อุดมเดช กล่าวว่า เขาพยายามรักษาตัวตนในการเคลื่อนไหว พร้อมทั้งยอมรับว่าคนที่มีอุดมการณ์ผิดๆ และแสวงหาสิ่งสำคัญของตนเองยังมีอยู่ ดังนั้นเราต้องดูแลให้ได้ต่อไป และขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน

"ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ อย่างบีอาร์เอ็นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อมโยงกลุ่มที่อยู่นอกวงกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ทางท่านนายกฯ ได้กำชับ ไปยังพล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ดูแลในเรื่องนี้ เพราะอาจมีคนตกหล่น และอยู่นอกวงการพูดคุย ดังนั้นต้องเชิญเข้ามาในการพูดคุยสันติสุข เพื่อจะได้มีประโยชน์มากขึ้นในการแก้ไขปัญหาพื้นที่" พล.อ.อุดมเดช กล่าว