บิ๊กDSIลงพื้นที่กาญจนบุรี ตรวจที่รัฐถูกนายทุนจีนรุก1,200ไร่

บิ๊กDSIลงพื้นที่กาญจนบุรี ตรวจที่รัฐถูกนายทุนจีนรุก1,200ไร่

"รองอธิบดีดีเอสไอ" ลุยลงพื้นที่กาญจนบุรี ตรวจสอบที่ราชพัสดุ1,200ไร่ หลังนายทุนจีนกว้านซื้อปลูกแก้วมังกรส่งออก พบใช้สารเคมีรุนแรงหวั่นไหลซึมลงแหล่งน้ำ จ่อดำเนินคดีหลายข้อหา

พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังพบข้อมูลว่า มีนายทุนร่วมกับชาวจีนเข้าไปกว้านซื้อที่ดินราชพัสดุในพื้นที่ดังกล่าว และเข้าไปปลูกพืชผลทางการเกษตร และมีการปักเสาปูนล้อมรั้วลวดหนามมิดชิด ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์ทางทหารของกองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ที่มีคนต่างด้าวยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิและไม่ได้รับอนุญาต อาจส่งผลกระทบต่อความรุนแรง ความสงบเรียบร้อยและมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นคนต่างชาติและพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้ชายแดนประเทศเมียนมาร์ โดยวันเดียวกันนี้ดีเอสไอจะประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กองพลทหารราบที่ 9 ธนารักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาและป้องกันการบุกรุกในระยะยาวด้วย

พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ากรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตชุมชนหลายด้าน ดังนี้ 1. พื้นที่เกิดเหตุมีอาณาเขตติดกับชายแดนประเทศเมียนมาร์ อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกองพลทหารราบที่ 9 ใช้ประโยชน์และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทหารและเป็นพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีของกองทัพภาคที่ 1 จึงมีความสุ่มเสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ 2. มีการขุดสระเพื่อกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ติดกับอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน พร้อมสร้างกำแพงคอนกรีตปิดกั้นทางน้ำ และขุดบ่อดินขนาดใหญ่อีกสองแห่งเพื่อกักเก็บน้ำที่ไหลออกมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยลำทรายตอนบน ส่งผลให้ชาวบ้านม. 10 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำสำหรับใช้เพื่อการเกษตร ประมาณ 80 ครัวเรือน

รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุด้วยว่า ลักษณะการประกอบการเกษตรกรรมของนายทุนต่างชาติ มีการใช้สารเคมีอย่างรุนแรงเพื่อให้ได้ผลิตผลจำนวนมาก และอาจไหลซึมลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของราษฎรในพื้นที่ ประกอบกับผลผลิตที่ได้จะนำไปจำหน่ายยังโรงงานละแวกใกล้เคียงและส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ เป็นการตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศและมาแข่งขันการทำเกษตรกรเข้าลักษณะข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษที่กำหนดไว้ในบัญชี 1 การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

สำหรับการลงพื้นที่จ.กาญจนบุรีครั้งนี้ เป็นผลมาจากการร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบกลุ่มนายทุนร่วมกับบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีนครอบครองที่ดินราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อประกอบกิจการในทางเกษตรกรรม ( ปลูกแก้วมังกร) อันเป็นธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการตามบัญชี 1 ของพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2542 ในพื้นที่ราชพัสดุ ม. 12 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 2 แปลง รวม 1,200 ไร่