พราวฯยึดทำเลยุทธศาสตร์‘เขย่าคู่แข่ง’

พราวฯยึดทำเลยุทธศาสตร์‘เขย่าคู่แข่ง’

แม้สมรภูมิธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยจะเต็มไปด้วยคู่แข่งจำนวนมากที่เปี่ยมไปด้วย “พลังทุน” และ “โนว์ฮาว”  

แต่ยังมี “โอกาส” ในการแทรกตลาดอีกยสำหรับคลื่นลูกใหม่ที่มองเห็น “ช่องว่าง” พร้อมขับเคลื่อนตลาดด้วยความแตกต่างจากคู่แข่งเดิมๆ  “พราว เรียล เอสเตท” เป็นหนึ่งในนั้น 

พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า การขับเคลื่อนธุรกิจของ พราว เรียล เอสเตท มุ่ง “ทำเลยุทธศาสตร์” การลงทุนและพัฒนาโครงการนั้นๆ สามารถสร้างแรงกระเพื่อม(Impact) ให้ตลาด และสร้างผลตอบแทนที่ดีทางการลงทุน 

เราเป็นบริษัทไซส์เล็ก ไม่มีสเกลที่จะทำโปรเจคได้มาก ฉะนั้นต้องสร้างโครงการที่มีเอกลักษณ์ (Iconic) มีความแตกต่าง หรือยูนีค (Unique)

จะเห็นว่า แต่ละโครงการของพราว เรียลเอสเตท ทั้งโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล  คอนโดมิเนียมหรู “พาร์ค 24” สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล และ บลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์แห่งแรกของเมืองไทยภายใต้การ “ร่วมทุน” กับกลุ่มเดอะมอลล์ มูลค่าเกือบ 6,000 ล้านบาท ล้วนมีจุดขายที่ “ทำเล” และความ “ยูนีค”  สะท้อนปรัชญาธุรกิจของ พราว เรียล เอสเตท “ไม่ทำแมส เน้นทำให้ดูดีและอยู่ได้นานๆ”

โดยขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ซึ่งได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA : Environmental Impact Assessment)  เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเริ่มลงเสาเข็ม มั่นใจว่างานก่อสร้างเป็นไปตามกำหนดเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการ เดือน ต.ค.2561 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เดือน ม.ค.2562

จะเห็นว่าทั้งใจกลางสุขุมวิท และเมืองท่องเที่ยวหัวหิน ภูเก็ต ล้วนเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่มีอำนาจซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก  นอกจากนี้ยังมีตลาดใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น สมุย เชียงใหม่ ที่ล้วนมีความโดดเด่นแตกต่างจากแหล่งลงทุนอื่นๆ   

ตลาดท่องเที่ยวใหม่ๆ เชียงใหม่ ยังมีอะไรให้ทำอีกมาก เพราะนักท่องเที่ยวจีนและเกาหลีไปมาก รวมทั้งเกาะสมุย ค่าเดินทางแพง เป็นการสกรีนนักท่องเที่ยวคุณภาพไปในตัว ยังมีตลาด อัพมาร์เก็ต ให้เล่นแยอะ สามารถเรียกราคาได้”

สำหรับ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต  บนที่ดิน 35 ไร่ พื้นที่กว่า 3.5 หมื่นตร.ม. ภายในมอนท์เอซัวร์ (MontAzure) โครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ริมหาดกมลา ในคอนเซปต์ คอนเทมโพรารี่ ไฮไลท์ของโรงแรมมีวิวทั้งฝั่งภูเขาและทะเล (ด้านหน้าหาดกมลา) เชื่อมต่อกันด้วยอุโมงค์ใต้ดิน  

ดีไซน์ภายในโรงแรมใช้แนวคิด “สวรรค์วิมาน” ภายใต้สถาปัตยกรรมสะท้อนความเป็นไทยที่จะเล่าเรื่องผ่าน “วรรณคดี” สะท้อนความเป็นไทยพร้อมตอกย้ำอารมณ์ของผู้เข้ามาพักผ่อนที่ภูเก็ต ซึ่งเปรียบได้กับ "สวรรค์บนดิน”

โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ให้บริการห้องพัก 223 ห้อง  วิลล่าแบบคลัสเตอร์ 12 ห้อง และวิลล่าแบบเดี่ยว 14 ห้อง มาพร้อมร่มเงาจากต้นสนทะเล 40-50 ต้น สูง 40 เมตร เป็นการรักษาเอกลักษณ์ของหาดกมลาเป็น “จุดขาย” ให้ความร่มรื่นไปทัวร์อาณาบริเวณ  

“การแข่งขันของพร็อพเพอร์ตี้ในภูเก็ต เรามีสิ่งที่คืนอื่นไม่มี นั่นคือ สินทรัพย์ที่ติดหาด นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเพื่อหาดจะมุ่งหน้ามาที่นี่ เรียกว่า ชัดเจนและแตกต่างจากคู่แข่ง”

พสุ ฉายภาพ “ภูเก็ต” ว่าเป็นตลาดศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว และการลงทุน เป็นเสมือนอีกโลกหนึ่ง!!  เป็น “ตลาดอินเตอร์เนชั่นแนล” ที่สมบูรณ์แบบ แน่นอนว่า จึงเป็นจุดหมายของการลงทุนธุรกิจทุกแขนงมุ่งหน้ารับโอกาสจากปริมาณนักท่องเที่ยว 12-13 ล้านคนต่อปี  

ภูเก็ต เป็น 1 จังหวัดอินเตอร์เนชั่นแนลของไทย ที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกตลอดปี  ตลาดท่องเที่ยวภูเก็ต ยังมีความครบรสของ “ตลาดล่าง-กลาง-บน เอื้อต่อการลงทุนทุกรูปแบบ สิ่งเหล่านี้ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง พราว เรียล เอสเตท”

พราว เรียล เอสเตท มีการลงทุน 2-3 โครงการในภูเก็ต มูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท นอกจาก โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ที่ปักหมุดยึดทำเลยุทธศาสตร์ของภูเก็ต “หาดกมลา”  ยังมีโปรเจคโรงแรมและสวนน้ำที่โครงการบลูเพิร์ล ภูเก็ต ภายใต้พันธมิตรกลุ่มเดอะมอลล์

 การลงทุนในภูเก็ตล้วนรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวจีน” แม้จะหลั่งไหลมาไทยอย่างมาก แต่ถือว่าอยู่ในช่วง “เริ่มต้น” ของการออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่สำคัญมีพัฒนาการในการใช้ชีวิตมากขึ้น นำสู่การใช้จ่ายแบบอัพสเกล 

แนวโน้มตลาดระดับบนขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง สอดรับยุทธศาสตร์ประเทศไทยมุ่งพัฒนา “ตลาดคุณภาพ” ในการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเทศไทยได้มีการขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบกน้ำอากาศ มีการเปิดเส้นทางใหม่ของบรรดาสายการบินต่างๆ แม้กระทั่งการพัฒนาของเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวง่ายและสะดวกขึ้น นักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลกต่างมี “ภูเก็ต” เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ต้องการมาเยือน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พราว เรียลเอสเตท ยังได้ “ออริจิ้น”  เป็นพาร์ทเนอร์ ร่วมขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้การเอื้อประโยชน์จุดแข็งซึ่งกันและกัน โดย

พันธมิตรธุรกิจเป็นอีกองค์ประกอบการสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ในโลกธุรกิจทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเองได้ทั้งหมด เราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ต้องอาศัย “พาร์ทเนอร์” ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจและลูกค้าได้อย่างมีศักยภาพ เข้ามา

ยุทธศาสตร์มุ่งพัฒนาสินค้าที่ “ยูนีคสูง” มีจุดเด่น จำนวนโปรเจคน้อย แต่ละโครงการต้องออกมา “ดี” เรียกว่า ดี ทั้ง ดีไซน์ ฟังก์ชัน ผลประกอบการ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการและตลาดได้  ซึ่งในความเป็นบริษัท “ไซส์เล็ก” ของ พราว เรียล เอสเตท เป็นความได้เปรียบในการปรับตัวสอดรับเทคโนโลยีและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเร็ว เป็นความท้าทายและรอพิสูจน์ฝีมือ พสุ ลิปตพัลลภ