สั่งให้ออก! นายช่างชลประทานลำพูน คดีเรียกรับเงินทอน4แสน

สั่งให้ออก! นายช่างชลประทานลำพูน คดีเรียกรับเงินทอน4แสน

กรมชลประทาน สั่งให้ออกราชการ "นายช่าง-ลูกจ้าง" ชลประทานลำพูน เรียกรับเงินทอน กว่า 4 แสนบาท หลังถูกซ้อนแผนจับกุม

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ได้เเถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนายช่างโครงการชลประทานลำพูน เรียกรับเงินทอนจากโครงการจัดซื้อดินลูกรัง งานระบบส่งน้ำพร้อมอาคาร ประกอบฝายวังปาน ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน เป็นเงิน 421,000 บาท จากผู้รับเหมาบริษัท สุริยันการค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับผู้เสียหาย ซ้อนแผน และเข้าจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ร้านกาเเฟอเมซอน ป๊มน้ำมัน ปตท. ทางเข้าห้างบิ๊กซีดอนจั่นได้ 2 ราย ไปเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดผู้ต้องหา ได้รับสารภาพแล้ว

นายจานุวัตร กล่าวว่า ล่าสุดทางกรมชลประทาน ได้มีคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้แก่ นายธรรมนูญ แก้วบุญปั๋น ลูกจ้างชลประทาน ผู้ต้องหาที่ 1 และนางสาวชนกกร เหมือนรอดดี ตำแหน่งนายช่างชลประทานปฏิบัติงาน ผู้ต้องหาที่ 2 ให้ออกจากราชการแล้ว

พร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่ผู้ต้องหาทั้งสองราย โดยผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกรรโชกทรัพย์

และผู้ต้องหาที่ 2 เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบ หรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันกรรโชกทรัพย์

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย ปปช. ปปท. สตง. ได้เข้าตรวจสอบเอกสารจากห้องทำงานผู้ต้องหา และจากบ้านพักของผู้ต้องหา เพื่อรวบรวมหลักฐานว่ามีการทุจริตโครงการอื่นหรือไม่ และมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ โดยทางกรมชลประทาน ได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ควบคู่ไปกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

"เรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เสียใจ และคาดไม่ถึง เปรียบเหมือนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว สร้างความเสื่อมเสีย และลดความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อชลประทานลำพูนเป็นอย่างมาก ซึ่งการดำเนินคดีต่ออดีตเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายนั้น จะดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างถึงที่สุดแน่นอน" นายจานุวัตร

นายจานุวัตร กล่าวอีกว่า ในด้านการสืบสวน สอบสวนนั้น ทางสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ และกรมชลประทาน จะให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ รวมถึงขณะนี้ ได้ให้ผู้อำนวยการชลประทานลำพูนออกนอกพื้นที่ก่อนเพื่อให้สะดวกต่อการดำเนินงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อไป