นายกฯซัดจำนำข้าวสร้างภาระปท.สูญเงินมหาศาล

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)แถลงภายหลังการประชุมหัวหน้าคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าว่า การประชุมครั้งนี้เน้นปรับรูปแบบการทำงานให้รวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมโยงกับประชาชน และเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่กำลังจะเข้าสภาในเร็วๆนี้ โดยตนเน้นแผนการทำงานในการวิจัยพัฒนาเน้นงานที่มีผลสัมฤทธิ์ภายใน 1 ปีเป็นหลัก เพื่อให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว และเป็นการแก้ปัญหาของประชาชนในระดับพื้นที่ ส่วนแผนการทำงานระยะยาวจะเป็นอีกกลุ่มงานหนึ่งที่ต้องวางแผนการให้ชัดเจน อะไรคือความเร่งด่วนสูงสุดในการทำงานเพื่อให้มีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ประหยัดและโปร่งใส

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รวมถึงการปรับรูปแบบการทำงานคือ การปรับการบริหารจัดการภาครัฐ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งได้เร่งรัดดำเนินการ และจัดอบรมหลักสูตร ในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯมีประเด็นสำคัญในการวางอนาคตให้กับประเทศไทย เพื่อปรับเปลี่ยนรายได้ของประเทศให้ลงไปดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มากที่สุด จากที่มีจดทะเบียนประมาณ 10 ล้านคน อีกส่วนหนึ่งคือเกษตกร 6 ล้านกว่าครอบครัว จะทำให้กระเตื้องขึ้น

"หลายอย่างไม่อยากให้สื่อมวลชน ประชาชน หรือสังคม มองว่าสิ่งไหนสำคัญกว่า มันสำคัญพอกันทั้งหมด หลักการของทุกประเทศที่ผมไปมาเขาพูดมาอยู่คำหนึ่งว่า สิ่งสำคัญที่จะพัฒนาประเทศและดูแลประชาชนได้มากที่สุดคือเรื่องความมั่นคง การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สร้างเสถียรภาพทางการเมืองและความมั่นคง ซึ่งจะเป็นแหล่งกำเนิดให้เราทำเรื่องอื่นๆได้ ถ้าบ้านเมืองยังวุ่นวาย สับสนอลม่านอยู่ มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น จะไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาประชาชนได้อย่างแท้จริง รัฐบาลนี้ใช้จ่ายเป็นงบประมาณหลายแสนล้านดูแลเกษตรกร ซึ่งปัญหาที่เป็นของเดิม คือการใช้จ่ายในรัฐบาลที่ผ่านมาที่มีปัญหาในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ทำให้เราสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก ทำให้เราต้องมาผ่อนชำระ ชดใช้หนี้ต่างๆในระบบการเงินการคลังของประเทศ ทำให้หลายอย่างติดขัด จึงอยากเรียนให้สังคมเข้าใจด้วย อย่าเอาหลายอย่างมาปะปนกัน วันนี้ การเดินหน้าทางการเมืองก็เดินหน้าไปตามโรดแม็ปอยู่ทุกประการ"นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯถือเป็นกระทรวงแห่งอนาคตประเทศ ตนให้ความสำคัญเพื่อนำไปสู่ประเทศที่มีรายได้จากนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยการใช้ดิจิทัลในการขับเคลื่อน ซึ่งหลายอย่างต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จึงอยากให้สังคมเข้าใจ ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่เปลี่ยน แปลงประเทศ ไม่เปลี่ยนแนวคิด ไม่เปลี่ยนแนวทางบริหารจัดการ ประเทศเดินหน้าไม่ได้อย่างแน่นอน ต้องฝากไว้ด้วย รัฐบาลนี้ดำเนินการจะครบ 3 ปีในเดือนหน้านี้ ตนทราบดีว่าปัญหาทุกอย่างยังแก้ไขไม่หมด แต่พยายามจะแก้ไขให้ได้มากที่สุด เพื่ออนาคตในวันหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ที่มีธรรมาภิบาล ในส่วนไหนที่เป็นปัญหาความเดือดร้อน หรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ควร ตนพร้อมรับในการพิจารณาแก้ไขดำเนินการ ทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในทุกๆเรื่อง