ตั้งเป้าขึ้นเบอร์2สะดวกทำธุรกิจแซงมาเลย์

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “การปฏิรูปภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (19 เม.ย.) ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการประเมินและจัดอันดับประเทศไทยในด้านต่างๆจากหน่วยงานภายนอกโดยเฉพาะในการจัดอันดับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease doing business) ของธนาคารโลก (World Bank)

ปัจจุบันประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ที่ 46 จาก 190 ประเทศ เป็นอันดับ 9 ของเอเชียและเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย อย่างไรก็ตามเราตั้งเป้าหมายที่จะขยับอันดับ Ease of doing business ให้แซงหน้ามาเลเซียหรือขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 2 ของอาเซียนภายในปี 2563

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในการแก้ปัญหาและปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมีการหารือกับธนาคารโลกมาโดยตลอดเพื่อรับทราบแนวทาง และคำแนะนำที่ควรมีการแก้ไขปรับปรุง ซึ่งแนวทางในการยกระดับการอำนวยความสะดวกที่ดีขึ้นของไทยที่ได้ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการแบ่งเป็น 4 ขั้นคือ

1.การออก พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ และพ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตทางราชการ พ.ศ.2558 ซึ่งกำหนดระยะเวลา ขั้นตอน และเอกสารในการขออนุญาตจากทางราชการในทุกหน่วยงานเอาไว้อย่างชัดเจนซึ่งทำให้สามารถลดขั้นตอน ต้นทุนและระยะเวลาในการประกอบธุรกิจได้

2.ในการประเมิน ของธนาคารโลกซึ่งจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.นี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างผลักดันกฎหมายสำคัญตามคำแนะนำของธนาคารโลกเพิ่มเติมอีก 2 ฉบับได้แก่ ร่างพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นขอใบอนุญาต พ.ศ... ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้และเมื่อผ่าน ครม.จะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ทันทีเนื่องจากเป็นกฎหมายลูกตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตทางราชการ พ.ศ.2558

หวังแก้ปัญหาทุจริตต่อใบอนุญาต

นายวิษณุ กล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้จะสร้างความชัดเจนเรื่องการต่ออายุใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ และสร้างความสะดวกให้นักธุรกิจและนักลงทุนเพราะการต่อใบอนุญาตของราชการที่หมดอายุสามารถทำได้ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคาร ระบบ e-payment หรือศูนย์บริการร่วมสำหรับรับคำขออนุญาตก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุ

“จะลดช่องว่างของปัญหาการทุจริตหรือเรียกรับประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐในระหว่างที่มีการยื่นต่อใบอนุญาตจากทางราชการซึ่งในอดีตเป็นปัญหามาโดยตลอดให้ลดลง”

สำหรับแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ซึ่งได้มอบหมายให้กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการแก้ไขร่างกฎหมายให้มีเนื้อหาครอบคลุมถึงการบังคับคดีล้มละลายข้ามประเทศ ซึ่งใช้ในกรณีการล้มละลายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแต่ผู้ที่จะต้องถูกบังคับคดีหนีไปต่างประเทศ โดยกฎหมายใหม่จะครอบคลุมการยึดทรัพย์ของผู้ถูกบังคับคดีในต่างประเทศได้

นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้กรมบังคับคดีอยู่ระหว่างการปรับปรุงร่างกฎหมายร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณาจึงอาจจะไม่ทันประกาศใช้ได้ภายในการประเมินของธนาคารโลกในปีนี้ แต่รัฐบาลจะรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ให้ธนาคารโลกรับทราบด้วย

มุ่งลดขั้นตอนระดับเจ้าหน้าที่

3.การสร้างความเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุน และการอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ โดยพยายามทำให้การเชื่อมโยงธุรกรรมระหว่างภาครัฐกับเอกชนในด้านต่างๆให้อยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

และ 4.การลดข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตทางราชการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของกฎหมายในมาตรา 77 ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งกำหนดให้รัฐพึงออกกฎหมายเท่าที่จำเป็น

ดังนั้นการกำหนดระบบและการอนุญาตต่างๆที่เป็นอำนาจของหน่วยงานรัฐในอนาคตก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและมีแนวโน้มที่จะลดลงจากในปัจจุบันที่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการขออนุญาตกว่า 2,000 ฉบับ และมีขั้นตอนปฏิบัติกว่า 5 แสนขั้นตอน

"ตรงนี้ต้องมาพิจารณาความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งพิจารณาการนำโทษทางปกครองมาใช้แทนโทษอาญาเพื่อลดขั้นตอนการเรียกร้องความเสียหายจากเจ้าหน้าที่รัฐ”

ตั้งเป้าแซงมาเลเซียใน 2 ปี

“การประเมินความสะดวกในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลกถือว่าเป็นการประเมินที่มีนัยและอคติทางการเมืองน้อยที่สุด และมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนทั่วโลกหลายล้านคนที่จะนำข้อมูลนี้ไปตัดสินใจในการลงทุนในประเทศต่างๆ ถ้าการจัดอันดับดีเขาก็มีความเชื่อมั่นที่อยากมาลงทุน ซึ่งอันดับที่จะออกมาเป็นตัวชี้วัดและบอกสถานะของประเทศถึงความพร้อมในการรองรับการลงทุนได้ดีกว่าการที่เราจะไปประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน"

นายวิษณุ กล่าวว่าเป้าหมายของรัฐบาลในขณะนี้คือทำอันดับให้ดีขึ้นเรื่อยๆและภายในปี 2562 – 2563 คาดหวังว่าเราจะเป็นที่สองเราจะไม่เพียงมีอันดับเท่ากับมาเลเซีย แต่เราจะแซงมาเลเซียขึ้นเป็นอันดับสองของอาเซียนให้ได้

เน้นแก้ปัญหาเชื่อมโยงข้อมูล

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการ ก.พ.ร.กล่าวว่าการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยตามการประเมินของธนาคารโลกในปีที่ผ่านมาได้เน้นเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจให้เพิ่มขึ้น

นอกจากเปิดตัวการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบออนไลน์อย่างครบวงจร (E-registration)ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งทำให้สามารถเริ่มต้นการประกอบธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ได้ในจุดเดียวและเชื่อมโยงระบบจองชื่อบริษัทกับระบบการจดทะเบียนไว้ด้วยกัน ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลหนังสือรับรองนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งต่อไปยังหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมที่ดิน ที่จะทำให้สามารถจดทะเบียนทรัพย์สินต่อไป