ตลาดหลักทรัพย์ปี59 'กำไร' พุ่ง 20%

ตลาดหลักทรัพย์ปี59 'กำไร' พุ่ง 20%

ตลาดหลักทรัพย์ปี59 "กำไรพุ่ง 20%" เกศรา ระบุผลงานตลาดน่าพอใจ รายได้ตราสารอนุพันธ์เพิ่มจากหุ้นผันผวน

ตลาดหลักทรัพย์ปี 59 รายได้ทะลุ 5 พันล้านบาท กำไรเติบโต 20.26 % แม้เริ่มจ่ายภาษีปีแรก และค่าใช้จ่ายเพิ่มหลังย้ายอาคารสำนักงานใหม่ ด้าน “เกศรา” ระบุ การเติบโตที่ดีมาจากตลาดหุ้นผันผวน ดันรายได้ทีเฟ็กซ์เพิ่ม

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงาน ผลการดำเนินงานของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ในปี 2559 ปรากฏว่ามีรายได้ 5,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.86% ที่มีรายได้ 4,518 ล้านบาท โดยตลาดหลักทรัพย์มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายในปี 2559 ที่ 1,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1,382 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.26%

แยกเป็นรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น จำนวน 581 ล้านบาท หรือ 12.86% จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของทั้งตราสารทุนและตราสารอนุพันธ์ จำนวนหลักทรัพย์ใหม่ที่รับเป็นนายทะเบียน และจำนวนผู้ใช้บริการในธุรกิจบริการเทคโนโลยี 

สำหรับรายได้จากเงินลงทุน เพิ่มขึ้น 275 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.89% ส่วนใหญ่มาจากเงินปันผลรับจากกองทุนรวมและกำไรที่รับรู้จากการปรับแนวทางการบริหารเงินลงทุนของตราสารหนี้ที่สำรองไว้เพื่อความมั่นคงของสำนักหักบัญชี ให้เป็นไปใน แนวทางที่ European Market Infrastructure Regulation (EMIR) กำหนด

นอกจากนี้ รายได้จากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 767 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 275 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.89% เมื่อเทียบกับปี 2558 จากเงินปันผลรับจากกองทุนรวมและกำไรที่รับรู้จากการปรับแนวทางการบริหารเงินลงทุนของตราสารหนี้ที่สำรองไว้เพื่อความมั่นคงของสำนักหักบัญชี ให้เป็นไปในแนวทางที EMIR กำหนด โดยในระหว่างปี 2559 มี การปรับแนวทางการบริหารเงินลงทุนจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่ถือจนครบกำหนด และบันทึกเงินลงทุน ด้วยราคาทุนเปลี่ยนเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่บริหารโดยกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้าที่จะบันทึกเงินลงทุนด้วยมูลค่ายุติธรรม 

ส่วนรายได้อื่นลดลง 24 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.71% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่สำคัญจากการ เลื่อนจัดกิจกรรมการตลาดที่เดิมกำหนดจัดในช่วงปลายปี 2559 เช่น กิจกรรม SET in the City และ SET Award โดยได้เลื่อนไปจัดในไตรมาส 1 ปี 2560 รวมทั้งในปี 2558 บริษัทหลักทรัพย์มีการโอน สิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเฉพาะปี

ทั้งนี้ หากพิจารณาในสัดส่วนรายได้ของตลาดหลักทรัพย์จะพบว่า มีรายได้จากธุรกิจตราสารทุนมากที่สุด 50% รายได้จากธุรกิจตราสารอนุพันธ์ 11 % ธุรกิจเทคโนโลยี 19 % และธุรกิจงานนายหน้าทะเบียน 20 %

ส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น จำนวน 359 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.76% หลักๆ จากค่าใช้จ่ายอาคารสำนักงานและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นจาก ระบบงานใหม่และย้ายอาคารสำนักงานแห่งใหม่ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 2559 และตลาดหลักทรัพย์ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2559

ทั้งนี้ ตลาดมีสินทรัพย์นั้นรวม 39,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 36,136 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.42 % โดยมีหนี้สินรวม 14,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 12,747 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.94 %  ขณะที่เงินกองทุนอยู่ที่ 25,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 23,389 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.59%  จากกลุ่มตลาดหลักทรัพย์มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ สำหรับปี 2559 จำนวน 1,662 ล้านบาท และการปรับตัวเพิ่มขึ้น ของราคาตลาดเงินลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนจำนวน 347 ล้านบาท

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ในปี 2559 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีการกระจายรายได้ในหลายกลุ่มไม่ได้พึ่งพิงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะมองว่าหากมีการพึ่งพิงรายได้กลุ่มใดมากเกินไปอาจจะเกิดปัญหาได้ โดยในปีที่ผ่านมารายได้ที่เติบโตได้ดีคือกลุ่มตราสารอนุพันธ์ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นตามความผันผวนของตลาดหุ้น ทำให้รายได้จากตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเข้ามาด้วย

ส่วนผลกระทบด้านภาษีนั้น ตลาดหลักทรัพย์ได้ดำเนินการจ่ายภาษีนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2559 ซึ่งยังไม่ส่งผลกระทบกับตลาด ซึ่งสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการคือทำให้ธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์สามารถเดินหน้าไปควบคู่กับการพัฒนาตลาดทุนให้มีการเติบโตที่ดี