อนาคต ‘แวร์เอเบิล’ ยังไม่ถึงทางตัน

อนาคต ‘แวร์เอเบิล’ ยังไม่ถึงทางตัน

ไอดีซีเผยอนาคตอุปกรณ์แวร์เอเบิลยังไม่ถึงทางตัน แค่เปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน เห็นได้จากการที่ตลาดเติบโตขึ้นถึง 16.9% ไตรมาส 4

ตลาดแวร์เอเบิลหรืออุปกรณ์สวมใส่ไฮเทค (wearable) ทั่วโลก มียอดสั่งสินค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยทะยานไปอยู่ที่ 33.9 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 เติบโตขึ้นถึง 16.9% ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน

ทั้งนี้ ยอดจัดส่งสินค้าตลอดทั้งปีเติบโต 25% เนื่องมาจากมีผู้ผลิตรายใหม่ในตลาด ผนวกกับรายเก่าที่อยู่แถวหน้าพัฒนาสินค้าตัวเองให้ดียิ่งกว่าเดิม ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดหรือไอดีซี ที่ให้บริการด้านการสำรวจข้อมูลตลาดอุปกรณ์สวมใส่ประจำไตรมาสทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า มีการจัดส่งสินค้าอุปกรณ์สวมใส่กว่า 102.4 ล้านเครื่องมาตลอดทั้งปี

"ตลาดอุปกรณ์แวร์เอเบิลกำลังปรับตัวและเปลี่ยนแปลง เหมือนเช่นตลาดเทคโนโลยีอื่นๆ”

นายโรมอน ลามาส ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและค้นคว้าสำหรับทีมอุปกรณ์แวร์เอเบิลของไอดีซี ตั้งข้อสังเกต พร้อมชี้ว่า อุปกรณ์แวร์เอเบิลแบบทั่วไปที่เปิดตัวสู่ตลาดในครั้งแรกเป็นเพียงแค่อุปกรณ์แบบนับก้าว ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น กำลังแปรสภาพปรับเปลี่ยนไปเป็นอุปกรณ์แวร์เอเบิลแบบอเนกประสงค์ ที่รวมด้านสุขภาพและสมรรถภาพทางร่างกายหรือฟิตเนสเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีการแจ้งแสดงผลทางสมาร์ทโฟน ซึ่งมีความล้ำหน้าจนแทบไม่แตกต่างกับอุปกรณ์แวร์เอเบิลอัจฉริยะ ส่วนใหญ่ในตลาด หรือเดินทางมาถึงจุดที่นาฬิกาอัจฉริยะยุคแรก แทบไม่แตกต่างจากอุปกรณ์ฟิตเนสแทรคเกอร์สวมข้อมือ (fitness tracker) ส่วนใหญ่เลย

“ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์แวร์เอเบิลอัจฉริยะ กำลังมีการพัฒนาขึ้นมาด้วย”

นายลามาส กล่าวว่า เรื่องสุขภาพและฟิตเนสยังคงเป็นเรื่องที่มีการให้ความสำคัญอยู่ต่อไป แต่หลังจากที่อุปกรณ์เหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้แล้ว จะยิ่งมีการพัฒนาด้านขีดความสามารถด้านแอพพลิเคชั่นแบบเฉพาะและการเชื่อมโยงสื่อสารได้อย่างสบาย นับเป็นการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งลงไปได้ นั่นทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ สามารถทำงานเป็นอิสระจากสมาร์ทโฟน นับเป็นการสร้างประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ (standalone experience) ให้กับผู้สวมใส่ได้

“จากการหลั่งไหลของผู้ผลิตรายใหม่ๆ มากมาย ที่มีความชำนาญการในแวดวงอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันนี้เอง ทำให้ตลาดอุปกรณ์แวร์เอเบิลยังฉายแววเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง แม้อัตราการเติบโตนี้ จะมาจากแรงผลักดันของผู้ผลิตมากกว่าจะมาจากความต้องการของผู้บริโภคก็ตาม”

นายจิเทช อูบรานี่ นักวิเคราะห์ข้อมูลระดับอาวุโส สำหรับเครื่องแทรคเกอร์เคลื่อนที่ของไอดีซี กล่าวพร้อมทั้งระบุว่า ขณะที่เทคโนโลยีเป็นเรื่องของสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ข้างใน นาฬิกาไฮบริดหรือแบบลูกผสม และเครื่องประดับแฟชั่นอื่นๆ ที่ผนวกฟิตเนสแทรคกิ้งไปด้วยนั้น กำลังได้รับแรงผลักดันให้เติบโต เพราะนับเป็นสัญญาณที่แสดงถึงโอกาสในการจำหน่ายอุปกรณ์แวร์เอเบิลอเนกประสงค์ให้กับผู้บริโภครายเดี่ยวได้ เนื่องจากมีรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความเป็น ‘แฟชั่น’ น่าซื้อหามาใส่

สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือ มันยังช่วยสร้างระบบนิเวศน์ให้ตลาด และช่วยให้ผู้ผลิตทั้งหลายแสดงข้อมูลเชิงลึกที่เอาไปใช้งานได้เลย (actionable insight) ให้กับผู้บริโภคได้ เพราะจัดเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว