คดีดัง 'หมอเก๊' โดน2ข้อหาหนัก ลอบเปิดคลินิกเสริมความงาม

คดีดัง 'หมอเก๊' โดน2ข้อหาหนัก ลอบเปิดคลินิกเสริมความงาม

แอบอ้างเป็น "หมอ" โดน2ข้อหาหนัก เปิดคลินิกเสริมความงาม-นัดมอบตัวอีก20ธค.นี้ จ่อเรียกหมอใช้ชื่อขออนุญาตเปิดคลินิกให้ปากคำ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม พ.ต.อ.ปพณพัชร์ ตั้งจิตจารุพัชร์ ผกก.สน.บางยี่เรือ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจรวบคู่รักแอบอ้างเป็นแพทย์เปิดคลินิกศัลยกรรมสลายไขมัน ทำหน้าอก หลังมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับตำรวจกว่า15 ราย ว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาเบื้องต้น 3 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย ตั้งแต่เมื่อวานนี้(17 ธ.ค.) คือ นายโอภาส เจริญวิทย์ อายุ 23 ปี และ น.ส.ณัฐชานนท์ พิทักษ์ชัยกร อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นแฟนกัน ส่วนที่เหลืออีก 1 ราย นัดมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร ที่ 20 ธ.ค. นี้

โดยทั้ง 3 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน สำหรับความคืบหน้าคดีนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ส่วนกรณีผู้ต้องหาพาดพิงถึงนายแพทย์สถาบันดัง ที่นำชื่อมาแอบอ้างเพื่อเปิดคลินิกนั้นก็ต้องมีการสืบสวนขยายผลแน่นอน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) กล่าวถึงมาตรป้องกันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) บูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง เข้มงวดกวดขัน 3 มิติ โดยมิติแรก คือ ตรวจสอบสถานให้บริการศัลยกรรมว่า มีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ส่วนมิติที่สอง ตรวจสอบผู้ให้บริการว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ เพราะมีบางแห่งมักแอบอ้างแพทย์บังหน้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และมิติที่สาม ตรวจผลิตภัณฑ์ยาว่า ได้รับมาตรฐานจาก อย.หรือไม่ ซึ่งทั้งสามมิตินี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่ง บก.ปคบ. ดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า สำหรับการขยายผลผู้ต้องหาพบว่า มีการแอบอ้างชื่อแพทย์จากสถาบันชื่อดังใช้ชื่อขออนุญาตเปิดคลินิกศัลยกรรมนั้น ต้องมีการตรวจสอบอยู่แล้ว ถ้าพบว่ามีแพทย์เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องดูรายละเอียดว่า เกี่ยวข้องในลักษณะใด มีการกระทำความผิดร่วมด้วยหรือไม่ ถ้าพยานหลักฐานไปถึงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ตำรวจยังพบว่ามีคลินิกเถื่อนแอบอ้างเพื่อศัลยกรรมในลักษณะนี้อีกไม่น้อย ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ฝากไปถึงประชาชน ถ้าตกเป็นเหยื่อแล้วการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นไปได้ยาก จึงอย่าหลงเชื่อง่ายๆเด็ดขาด