ตลาดหมุนตัวเก็งกำไรไปยังกลุ่มที่ไม่ใช่พลังงาน

ตลาดหมุนตัวเก็งกำไรไปยังกลุ่มที่ไม่ใช่พลังงาน

เก็งกำไรด้วยวงเงินจำกัด และเพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเมื่อเข้าสู่ช่วง ธ.ค.

เราประเมินจิตวิทยาการเก็งกำไรยังเป็นบวก จากคาดการณ์ธนาคารกลางยุโรปจะขยายเวลามาตรการ QE ออกไป อีก 6 เดือน สิน้สุด ก.ย.60 จากเดิม มี.ค.60 รวมทั้งอาจมีการผ่อนคลายเงื่อนไขการซื้อให้ยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ การซื้อพันบัตรที่ผลตอบแทนต่ำกว่าเงินฝาก หรือพันธบัตรที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ด้วยอัพไซด์ของราคาน้ำมันดิบระยะสั้นที่เริ่มจำกัด ดังนั้นเรายังคงคาดตลาดหมุนตัวเล่น และการผลักดันไปยังหุ้นกลุ่มอื่นมากขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ รวมทั้งค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง (ดูรายละเอียดในหน้า 2) มีโอกาสทำให้หุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวในระยะสั้นได้ ทั้งนี้เรายังประเมินอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในหลายภูมิภาคทั่วโลกจะปรับขึ้นในปีหน้าและทำให้สินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นพลังงานมีความโดดเด่นสำหรับการลงทุนปี 2560 อย่างไรก็ตามในระยะสั้นเราคาดหุ้นกลุ่มอื่นจะถูกผลักดันขึ้นมาในจังหวะที่โภคภัณฑ์มีแรงขายทำกำไร อาทิ ธนาคาร อาหาร อสังหาริมทรัพย์ (บางตัว) เป็นต้น โดยมีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ SCB, KTB, TU, CPF, PSH, ORI*, IVL, SMT*

คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50: (+) GL, THAI, JAS, SPRC, GLOBAL, KKP, PTG, SCCC / (-) BEC, TASCO, TTW, SAWAD, MTLS, BCP, TPIPL, WHA // คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET100: (+) JAS, SPRC, SUPER, VIBHA, TKN, BIG, THANI, GFPT, SCCC/ (-) TRC, BJCHI, RS, ERW, JWD, SVI, WORK, HANA, IFEC

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 8 ธ.ค. – ประชุมธนาคารกลางยุโรป / 13-14 ธ.ค. - ประชุมเฟด (ทราบผลเช้า 15 ธ.ค.) / 21 ธ.ค. - การปรับลด GDP โดยธปท.

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : แม้ relief rally อาจพาตลาดขึ้นทดสอบ 1530-1550 แต่ยังแนะนำ เก็งกำไรด้วยวงเงินจำกัด และเพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเมื่อเข้าสู่ช่วง ธ.ค. และจากความเสี่ยงจากการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ เลือกเก็งกำไรหุ้นที่ตลาดอาจหมุนไป ได้แก่ ธนาคาร อาหาร อสังหาฯ (บางตัว) หรือได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี ท่องเที่ยว รวมถึงที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวได้ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ SCB, TU, PSH / เก็งกำไร SMT*, FN*, AAV*

แนวรับ/แนวต้าน : 1515/1528-32, 1545 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

• การเดินหน้าเปิดซองรถไฟฟ้า: BTS, STEC, RATCH, SEAFCO, PYLON/ เจรจาส่วนต่อขยาย: BEM, CK

• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ: กลุ่มค้าปลีกและผู้จำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงกระเบื้อง TK, S11, JMART, SYNEX, DCC, DRT / ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ROBINS, BIGC, MAKRO, CPN, HMPRO / กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, CENTEL และ MINT

• กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, CFRESH*, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)


หุ้นแนะนำ

• SCB (190) : หุ้น top pick ในกลุ่มธนาคารใหญ่ ที่คาดมีกำไรปี 2560 เติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มที่ 15.6% ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 6.5% การปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ขนาดใหญ่เป็น upside risk ที่ทำให้หุ้นน่าสนใจ

• TU (24.50) : กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และการเติบโตมีโอกาสดีกว่าคาดจากการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับดีลล่าสุด Red Lobster ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดบริษัทสามารถพลิกให้ธุรกิจกลับมากำไรได้ในปี 2560

• PSH (30) : เรามองเป็น dividend yield play ที่ให้ผลตอบแทนจูงใจถึง 9% ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2560 ว่าผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว

• SMT (9.50) : ผลการดำเนินงาน turnaroundมีกำไรเป็นบวก 4 ไตรมาสต่อเนื่องและคาดจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/59 จากสินค้าใหม่, IC packaging และ Wafer dicing ทั้งนี้การหยุดผลิต HDD Assembly ในปี 2560 จะทำให้มีกำลังการผลิตที่นำไปใช้กับสินค้าอื่นได้ concensus ประเมินกำไรปี 2560 เพิ่มขึ้น 155%

• ORI (9) : คาดกำไรไตรมาส 4/59 ทำจุดสูงสุดใหม่ เป็นผลจากการประสพความสำเร็จในการเปิดโครงการคอนโดในเมือง (นราธิวาส)