ผู้ค้าไอทีชี้ไตรมาส4 ซึม ‘คอมมาร์ต’ ปรับลดเป้า

แม้ไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาทองของผู้ค้า แต่ปีนี้กลับไม่ใช่เช่นนั้น แม้จะมีไฮไลต์อย่าง “ไอโฟน7” เข้ามาสร้างความตื่นเต้นช่วง 3 เดือนสุดท้าย แต่ก็แค่กระตุกความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ขณะที่ภาพรวมทั้งตลาดยังอยู่ในภาวะเศร้าซึม

งานนิทรรศการไอทีงานใหญ่ที่ยังจัดอย่างต่อเนื่องอย่าง “คอมมาร์ต” ที่เปิดฉากไปแล้ววานนี้ (3 พ.ย.) อาจเป็นหนึ่งในความหวังสุดท้ายของผู้ค้าไอทีสำหรับปีนี้ โดยผู้จัดงานได้ฟหั่นเป้าเงินสะพัดภายในงานลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้สูงถึง 3,000 พันล้านบาท ลดเหลือ 2,800 ล้านบาทอย่างลุ้นๆ ว่าการชะลอการจับจ่ายตั้งแต่ต้นปีของผู้บริโภคจะมาปล่อยกำลังซื้อที่อัดอั้นไว้ภายในงานนี้

หั่นเป้าเหลือ 2.8 พันล้าน
นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า การจัดงานคอมมาร์ต เวิร์ค 2016 ถือเป็นการจัดงานครั้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าร่วมงานตลอด 4 วัน ไว้ที่ 700,000 คน จากการจัดงานครั้งที่ผ่านมาที่มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานราว 800,000 คน ส่วนยอดเงินสะพัดภายในงานตั้งเป้าไว้ที่ 2,800 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับยอดเงินสะพัดจากการจัดงานในช่วงกลางปีที่ผ่านมา

“ก่อนหน้านี้บริษัทคาดการณ์ยอดเงินสะพัดไว้ที่ 3,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากช่วงนี้ประชาชนชาวไทยยังอยู่ในช่วงโศกเศร้า จึงปรับลดเป้ายอดเงินเหลือ 2,800 ล้านบาท โดยเชื่อว่ายังคงมีกำลังซื้อจากการชะลอใช้จ่ายตั้งแต่ช่วงต้นปี และผู้ใช้สินค้าไอทียังต้องการซื้อสินค้ารุ่นใหม่ๆ เพื่ออัพเดทเทคโนโลยี ประกอบกับการจัดงานครั้งนี้มีสินค้าใหม่ๆ มาจำหน่ายหลากหลายทั้งสมาร์ทโฟนอย่างไอโฟนรุ่นใหม่ โน้ตบุ๊ก และเดสก์ท็อปรุ่นใหม่จากค่ายไอทีชั้นนำ ทั้งเดลล์ เลอโนโว เอซุส เอชพี เอ็มเอสไอ"

ขณะเดียวกัน ร้านค้าปลีกสินค้าไอทีที่เข้าร่วมงาน ยังคงนำสินค้ามาจัดโปรโมชั่นราคาภายในงาน จึงเชื่อว่าทั้งสินค้ารุ่นใหม่และสินค้าลดล้างสต็อกจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้นิยมเล่นเกม ประกอบกับเทรนด์คนมางานคอมมาร์ตเปลี่ยนไปเป็นการมองหาสินค้าใหม่ๆ เน้นดีไซน์และฟังก์ชั่นที่คุ้มค่าคุ้มราคา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อสินค้าทดแทนเครื่องเก่า

สำหรับสินค้าที่จะสามารถสร้างยอดเงินสะพัดได้มากที่สุด 3 อันดับแรกของการจัดงานครั้งนี้ คาดว่า จะเป็นสินค้ารุ่นใหม่ๆ ได้แก่ โน้ตบุ๊ค และ เดสก์ทอปในกลุ่มเกมมิ่ง และสมาร์ทโฟน ตามลำดับ ขณะที่ราคาเฉลี่ยสินค้าไอทีในปัจจุบัน โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ มีราคาตั้งแต่ 12,000-14,000 บาท ส่วนโน้ตบุ๊คสำหรับกลุ่มเกมมิ่งมีราคาเฉลี่ย 40,000 บาท

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า จะมีกระแสนิยมในสินค้ากลุ่มเดสก์ทอปกลับมาอีกครั้ง หลังการจัดงานครั้งที่ผ่านมาพบว่า ผู้บริโภคให้การตอบรับเดสก์ทอปจนกลายเป็นสินค้าขายดีอันดับที่ 2 ของการจัดงานครั้งดังกล่าว ขณะที่ โปรโมชั่นมีทั้งลดราคาและของแถม แบรนด์เตรียมมา และเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เช่น โน้ตบุ๊คสำหรับเกมเมอร์ก็จะมีแถมเกี่ยวกับเกม, โน้ตบุ๊คคนทำงานก็จะแถมเกี่ยวกับการทำงาน

ผู้ค้าชี้ไตรมาสนี้ “สาหัส”
ด้านแหล่งข่าวผู้ค้าวงการไอที เปิดเผยว่า กำลังซื้อในตลาดปีนี้ ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี ทั้งจากปัจจัยสภาพเศรษฐกิจ ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อช้าโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่ม พีซี โน้ตบุ๊ค เมื่อเทียบกับกลุ่มแก๊ดเจ็ท หรือสมาร์ทโฟน ที่กลุ่มหลังนี้ยังมีกำลังซื้อแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับช่วงที่ “พีคสุด” นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปียังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ หรือสินค้าใหม่จากฟากของผู้ผลิตพีซี หรือโน้ตบุ๊คมากนัก

“ปีนี้ ถือว่าสาหัสสำหรับผู้ค้าโดยเฉพาะในฟากของพีซี โน้ตบุ๊ค ที่ตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้เป็นแค่เฉพาะในไทย แต่เป็นแนวโน้ม และเป็นเทรนด์ทั่วโลกมาสักระยะแล้ว จะเห็นการปรับเปลี่ยนโมเดล รูปแบบการทำธุรกิจของยักษ์พีซีหลายแบรนด์ในช่วงนี้ รวมไปถึงผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดที่ยังมีการเติบโตยังคงเป็นตลาดองค์กร และจะมีความหวังในส่วนของโครงการรัฐใหม่ๆ ที่เน้นบริการด้านดิจิทัล” แหล่งข่าว กล่าว

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เอเซอร์จะเน้นโปรโมชั่นด้านราคา ส่วนธีมการจัดงานได้ปรับโทนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่น่ามีผลกระทบกับยอดขาย เพราะคอมพิวเตอร์เป็นสินค้าที่ต้องตัดสินใจล่วงหน้า ดังนั้นคนที่มางานจึงมีความต้องการซื้ออยู่แล้ว

ภาพรวมปีนี้ตั้งใจว่าจะพยายามรักษาระดับเติบโตที่ 10% ตอนนี้ก็ทำได้ใกล้เคียง ปลายไตรมาส 3 ต่อต้นไตรมาส 4 ยอดดรอปลงนิดหน่อย คนยังไม่อยู่ในอารมณ์จับจ่ายและดรอปทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ไอที จะกลับมาเหมือนเดิมคงต้องใช้เวลา อย่างน้อยใน 3 เดือนนี้น่าจะยังชะลอตัวอยู่

ปรับลดโทนงาน-กิจกรรมให้สุภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของงาน คอมมาร์ต เวิร์ค 2016 โดยภาพรวมได้ปรับโทนจัดกิจกรรมให้มีความสุภาพสอดคล้องกับบรรยากาศ พริตตี้แนะนำสินค้าทุกบูธเน้นแต่งกายสุภาพ ขณะที่ ต้องยอมรับว่างานนี้ เป็นหนึ่งงานความหวังของผู้ค้าที่ต้องการ “ปิดยอด” ขายปลายปี ในงานจึงยังเห็นการจัดโปรโมชั่น โดยแบรนด์หลักยังมากันครบ มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น เอชพี กับพีซีแบรนด์ OMEN, เลอโนโว, เดลล์, เอ็มเอสไอ เป็นต้น ส่วนในฝั่งของสมาร์ทโฟน “ไอโฟน 7” ยังเป็นไฮไลต์เด่น รวมถึงแก็ดเจตต่างๆ เช่น โดรน

ส่วนยักษ์พีซีอย่าง เลอโนโวมี โยก้า บุ๊ค (Yoga Book) แทบเลตทูอินวัน มาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก หลังไปโชว์ในงานโมบายเอ็กซ์โปที่ผ่านมา และได้รับความสนใจ รวมทั้งมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมที่เน้นตรงใจกลุ่มลูกค้า เช่น แถมคอนโซลเกมสำหรับฮาร์ดคอร์เกม, พรินเตอร์, เอ็กเทอร์นัลฮาร์ดดิสก์ สำหรับลูกค้าทั่วไป รวมถึงส่วนลด 1,000-4,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นผ่อน 0%

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการนำสินค้าเกรดบี หรือสินค้ามือสอง รวมถึงสินค้าตัวทดลองเข้ามาจำหน่าย และมีการลดราคาลงมากถึง 30-70% มีการแจก แถมของพรีเมี่ยม มีแคมเปญลุ้นทอง พร้อมเว้าท์เชอร์ในทุกวัน

งานคอมมาร์ต เวิร์ค 2016 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย.2559 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งสิริกิติ์