วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังแหล่งผลิต Buzzard จะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน  

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังแหล่งผลิต Buzzard จะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง

- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังแหล่งผลิต Buzzard ในบริเวณทะเลเหนือซึ่งมีกำลังการผลิต  180,000 บาร์เรลต่อวัน จะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งภายในวันอังคารหรือพุธ หลังจากการปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลาหนึ่งเดือน

- รัฐมนตรีน้ำมันของอิรัก กล่าวว่า อิรักควรจะได้รับการยกเว้นจากแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคเหมือนกับไนจีเรีย และลิเบีย เนื่องจากอิรักต้องการรายได้สำหรับทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายของรัฐอิสลาม (ไอเอส)

- ผู้บริหารบริษัทน้ำมันแห่งชาติ (SOMO) กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนแบ่งการตลาดของอิรักลดลง เนื่องจากสงคราม ซึ่งหากไม่มีสงครามอิรักควรจะผลิตน้ำมันดิบได้ถึง 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่เดือน ก.ย. อิรักผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 4.774 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- สำนักงานรอยเตอร์คาดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรลต่อวัน หลังปรับลดลงมากกว่า 5 ล้านบาร์เรล เมื่อวันที่ 14 ต.ค.

+ ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Seaway Pipeline ที่มีกำลังการขนส่ง 850,000 บาร์เรลต่อวัน ทำการขนส่งน้ำมันดิบจากบริเวณ คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นบริเวณอ่าวเม็กซิโก จำเป็นต้องหยุดดำเนินการขนส่งกะทันหัน หลังพบการรั่วไหลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่าน อย่างไรก็ตาม กำลังการขนส่งปริมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน ได้กลับมาดำเนินการตามปกติเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังการขนส่งอีก 400,000 บาร์เรลต่อวัน ยังคงหยุดดำเนินการ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่ปรับเพิ่มขึ้นจากประเทศแอฟริกา ขณะที่อุปทานมีแนวโน้มตึงตัว หลังโรงกลั่นน้ำมันในประเทศญี่ปุ่นบางโรงจำเป็นต้องหยุดดำเนินการผลิตหน่วยการกลั่นบางหน่วย เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในประเทศ

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากคาดว่าการส่งออกจากประเทศอินเดียมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังความต้องการภายในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังฤดูฝนสิ้นสุดลง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

-จับตาการประชุมกลุ่มโอเปคในวันที่ 28 – 29 ต.ค. ที่เมืองเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับเพดานปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศในกลุ่มโอเปค และระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต พร้อมกันนี้ กลุ่มโอเปคจะเชิญผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
-ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ต.ค. ปรับตัวลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการนำเข้าจากแคนาดาที่ลดลง และคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า
-อุปทานน้ำมันดิบจากไนจีเรียยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 22% จากปัจจุบัน มาแตะระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลในปลายปีนี้ ประกอบกับลิเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง ยังคงส่งผลกดดันราคาน้ำมัน โดยล่าสุดการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียแตะระดับ 0.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกครั้ง หลังแหล่งน้ำมันดิบ Waha กลับมาดำเนินการได้แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา





ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999