‘4 เทรนด์ไอที’ ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

‘4 เทรนด์ไอที’ ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

‘4 เทรนด์ไอที’ ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่จะพาประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม จากนโยบายภาครัฐที่มีความชัดเจน ทำให้หลายธุรกิจเริ่มปรับโครงสร้างองค์กรเตรียมพร้อมแข่งขันทางธุรกิจ และให้ความสำคัญเพิ่มศักยภาพด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานองค์กรมากขึ้น

นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด หรือไอเอสเอสพี เล่าถึงแนวโน้มเทรนด์เทคโนโลยียุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่องค์กรธุรกิจควรพิจารณา ปรับใช้ให้ธุรกิจเติบโตและก้าวไปพร้อมๆ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้วย 4 เทรนด์ไอที ดังนี้


1. โมบายเทคโนโลยี (Mobile Technology) นับเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้ชิดคนไทยมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้บริโภคที่หันมานิยมใช้สมาร์ทโฟน, แวร์เอเบิล, แทบเล็ต และอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น และมีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวัน ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป อุปกรณ์โมบายกลายเป็นส่วนหนึ่งในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อการสื่อสาร อัพเดทสถานการณ์ข่าวสาร การติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อน ครอบครัว ดารานักแสดง


นอกจากนั้นยังมีการซื้อสินค้าและการใช้จ่ายต่างๆ หรือแม้แต่การใช้หาข้อมูลความรู้ที่ต้องการ รวมทั้งการแสดงออกทางความคิดเห็นต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟซบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม วอทส์แอพ ฯลฯ


จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ภาคธุรกิจต้องหันมาสนใจในการคิดค้น และพัฒนาโมบายเทคโนโลยี หรือแอพพลิเคชันต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น รวมทั้งใช้ช่องทางดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและองค์กรอย่างใกล้ชิด


2. อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things หรือ IoT) ไอโอทีกำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญผสานรวมโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันอย่างรวดเร็ว ตลอดจนสร้างโอกาสและความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับองค์กรธุรกิจ


จากการที่โมบายเทคโนโลยีแพร่หลาย ผู้คนเริ่มคุ้นชินการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อควบคุม หรือใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตมากขึ้น องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวแล้วนำระบบดิจิทัลกำลังเข้าไปเปลี่ยนโมเดลธุรกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดิมๆ ให้เชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลเพื่อเชื่อมโยงทุกส่วนให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ และเป็นแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อผลักดันมูลค่าของธุรกิจให้ก้าวสู่ระดับที่ใหญ่ขึ้น เติบโตขึ้นได้ในยุคของเศรษฐกิจดิจิทัล


3. บิ๊กดาต้า (Big Data) ผลจากการแพร่หลายของเทคโนโลยี อุปกรณ์เชื่อมต่อที่ทันสมัย สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุม และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ทำให้เกิดข้อมูลต่างๆ เกิดขึ้นมากมายบนโลกดิจิทัล ทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้างและข้อมูลไร้โครงสร้าง ล้วนมีมูลค่ามหาศาลต่อธุรกิจในยุคนี้ และเพื่อต้องการเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการเก็บข้อมูล เนื่องจากเทคโนโลยีจากคลาวด์โซลูชั่นสามารถจับข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว

4. คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) เป็นตัวเลือกที่องค์กรหลายแห่งทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่หันมาให้ความสำคัญ ให้ความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยและความเสถียร เพื่อนำมาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นการเช่าใช้บริการเป็นรายเดือน มีผู้เชี่ยวชาญระบบคอยดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน จะมีการอัพเดทให้ใหม่เสมอ


นายบัณฑิต กล่าวว่า ทั้ง 4 เทคโนโลยีนี้จะขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจ ให้ก้าวไปพร้อมกับแผนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างไรและเมื่อไรขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อข้ามผ่านยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างสง่างาม


ท้ายที่สุดแล้วแทรนด์ธุรกิจและเทคโนโลยีใหม่ๆ จะนำพาให้เดินไปในเส้นทางไหน เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองต่อไป