อียูเร่งอังกฤษเริ่มกระบวนการถอนตัว

นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอีซี แถลงว่าในนามฝ่ายบริหารของอียู รู้สึกตกตะลึงและเสียใจเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าประชาชนในสหราชอาณาจักรต้องการยกเลิกสถานภาพสมาชิก แต่รัฐบาลอังกฤษ ควรเริ่มดำเนินการตามขั้นตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนในทันที เพื่อให้สมาชิกที่เหลืออีก 27 ประเทศสามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง

นอกจากนี้ นายยุงเกอร์ ยังยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจาเรื่องสิทธิพิเศษ เกี่ยวกับสถานภาพสมาชิกของสหราชอาณาจักรอีก และเมื่อถูกถามว่า การถอนตัวของสหราชอาณาจักรคือ การเริ่มต้นที่จะนำไปสู่จุดจบของอียูหรือไม่ นายยุงเกอร์ตอบเสียงแข็งว่าไม่ใช่ จากนั้นก็ยุติการแถลงข่าวทันที

ขณะที่นายมาร์ติน ชูลซ์ ประธานสภายุโรป ( อีพี ) กล่าวว่า  รัฐบาลสหราชอาณาจักรใช้อียูเป็นตัวประกันในการรักษาเสถียรภาพภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ที่กำลังเผชิญกับความแตกแยกอย่างหนัก จากการที่สมาชิกภายในพรรคมีแนวคิดแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องอียู 

     ทั้งนี้ ผลการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า 48% ต้องการอยู่ร่วมกับอียูต่อไป ส่วน 52% ต้องการให้ประเทศพ้นจากการเป็นสมาชิกอียู ทำให้เกิดกระแสเบร็กซิตช็อกไปทั่วโลก และสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง อ่อนค่าที่สุดในรอบ 31 ปี ท่ามกลางความกังวลอย่างหนักของทุกฝ่ายในเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ