นัดสั่งคดี'ผู้บริหารเมก้าฯ' ทำสารไพโรเจนรั่ว 3 มิ.ย.นี้

นัดสั่งคดี'ผู้บริหารเมก้าฯ' ทำสารไพโรเจนรั่ว 3 มิ.ย.นี้

"อัยการ" นัดสั่งคดี "ผู้บริหาร เมก้าฯ–วิศวกร กับพวกรวม 11 ราย" ประมาท ทำสารดับเพลิงถังไพโรเจน รั่วตาย 8 ราย บาดเจ็บ 7 ราย วันที่ 3 มิ.ย.นี้

พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์รอง ผกก.สอบสวน สน.พหลโยธิน พร้อมด้วย พ.ต.ต.ไพรัช ทองดอนน้อย พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้นำตัว นาย ณ.พงษ์ สุขสงวน อายุ 44 ปี ประธาน กรรมการบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด ,นายอดิศร โฟดา อายุ 50 ปี ผู้บริหาร บจก.เมก้าฯ ,นาย จิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ อายุ 29 ปี วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ กับพวกรวม 9 ราย และนิติบุคคลอีก 2 ราย รวม 11 ราย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีกระทำประมาท เหตุระบบดับเพลิงที่บรรจุสารเคมีในถังไพโรเจนทำงานอัตโนมัติ จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย และผู้ที่ได้รับอันตรายแก่กายและสาหัส 7 ราย บริเวณชั้นใต้ดินของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (SCB) เอสซีบีปาร์ค เขตจตุจักร เมื่อค่ำวันที่ 13 มี.ค.59 พร้อมสำนวนการสอบสวน และเอกสารพยานหลักฐานรวม 4 แฟ้ม ที่มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นาย ณ.พงษ์ ประธาน บจก.เมก้าฯ กับพวกรวมทั้งหมด 11 ราย ในความผิดฐาน ผู้ใดร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300 ,390 มาส่งมอบให้ นายเจษฎา อรุณชัยภิรมย์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เพื่อพิจารณาสั่งคดี

โดยนายสุริเยศ ทรงมีชัย ทนายความของบจก.เมก้าฯ ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการด้วย ซึ่งนาย สุริเยศ ทนายความ กล่าวว่า การร้องขอความเป็นธรรม อยู่ในส่วนของกลุ่ม บจก.เมก้าฯ 4 ราย ที่ขอให้สอบเพิ่มในทุกประเด็น

ขณะที่นายเจษฎา อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 กล่าวว่า ในการพิจารณาสำนวนตนจะตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจดูรายละเอียดพยานหลักฐาน เนื่องจากคดีนี้ มีผู้ต้องหา 2 รายจะครบฝากขังครั้งสุดท้ายในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ส่วนประเด็นร้องขอความเป็นธรรมนั้น อัยการต้องดูว่ามีสาระสำคัญหรือไม่ หากมีความจำเป็น ต้องสอบเพิ่มก็จะดำเนินการต่อไป แต่หากไม่เป็นประเด็นก็จะสรุปความเห็นเพื่อสั่งคดี โดยตนนัดผู้ต้องหาทั้ง 11 รายให้มาพบเพื่อฟังคำสั่งในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งได้กำชับให้ผู้ต้องหามาพร้อมกันทุกราย อย่างไรก็ดีวันนี้ก็ให้ผู้ต้องหาทุกรายได้ประกันตัวไป

เมื่อถามว่า คดีนี้ถือว่ามีข้อยุ่งยากในการพิจารณาหรือไม่ นายเจษฎา อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 กล่าวว่า ก็อาจมีข้อยุ่งยากไม่เช่นนั้นตำรวจคงไม่ใช้เวลาถึง 3 เดือน ในการสรุปสำนวน ทั้งนี้อัยการก็มีเวลาพิจารณาสำนวนก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย 6 มิ.ย.นี้ ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องสั่งสอบเพิ่มเติมแล้วผู้ต้องหา 2 ราย ต้องพ้นจากการควบคุมตัว ก็ต้องให้พนักงานสอบสวนไปติดตามตัวมาในวันที่อัยการจะสั่งคดี