เปิด!หลักเกณฑ์ 8 ข้อ 'การประกอบธุรกิจทวงถามหนี้'

เปิด!หลักเกณฑ์ 8 ข้อ 'การประกอบธุรกิจทวงถามหนี้'

ประกาศราชกิจจาฯ หลักเกณฑ์ 8 ข้อ "การประกอบธุรกิจทวงถามหนี้" ย้ำข้อมูลความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

ราชกิจจานุเบกษา หน้า ๖ เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๙๙ ง ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ประกาศคณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจทวงถามหนี้

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคสอง และมาตรา ๑๖ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจทวงถามหนี้”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้” หมายความถึง ผู้รับจ้างทวงถามหนี้ที่ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้แล้วตามกฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้
ข้อ ๔ เมื่อได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้แล้ว ให้ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้จัดให้มีป้ายชื่อติดไว้ที่หน้าสถานที่ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยเปิดเผยและมองเห็นได้ง่ายป้ายชื่อที่ใช้ในการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ให้เขียนข้อความเป็นอักษรไทย แต่จะมีอักษรต่างประเทศกํากับไว้ท้ายหรือใต้ชื่ออักษรไทยด้วยก็ได้ โดยป้ายชื่อต้องมีคําว่า “สํานักงานประกอบธุรกิจทวงถามหนี้” ประกอบกับชื่อที่ได้จดทะเบียน และจะต้อง
(๑) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย หรือพระนามของพระราชินีหรือองค์รัชทายาท
(๒) ไม่ซ้ําหรือพ้องกับชื่อสํานักงานอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้นั้น
(๓) ไม่มีคําหรือความหมายหยาบคาย
ข้อ ๕ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(๑) ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ภายใต้ข้อกําหนดของกฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้อย่างเคร่งครัดและตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ สุจริต และมีความรอบคอบระมัดระวังภายใต้หลักการจริยธรรมและการจัดการที่ดี
(๒) หนี้ที่ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ไปทวงถามนั้นจะต้องเป็นหนี้ที่ถึงกําหนดชําระแล้ว
(๓) แจ้งข้อมูลหรือเผยแพร่เอกสารใด ๆ ที่จําเป็นเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้ทวงถามหนี้ต่อลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ รวมทั้งแจ้งสิทธิในการร้องเรียน ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการทวงถามหนี้ เบี้ยปรับกรณีผิดนัดชําระหนี้แก่ลูกหนี้ที่ตนรับจ้างทวงถามหนี้อย่างเท่าเทียมกัน
(๔) ให้คําแนะนําโดยไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสําคัญซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

(๕) จัดทําบัญชีรายชื่อพร้อมตําแหน่งของพนักงานของผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ให้เป็นปัจจุบันและจัดให้มีระบบงานที่แสดงให้เห็นได้ว่ามีการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละคนภายในสํานักงานและส่งให้นายทะเบียนภายในสิบห้าวันนับแต่วันจดทะเบียน กรณีมีการเปลี่ยนแปลงให้ส่งรายการที่มีการเปลี่ยนแปลงให้นายทะเบียนภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
(๖) จัดทําบัตรประจําตัวพนักงานทวงถามหนี้โดยต้องระบุชื่อ ชื่อสกุล หมายเลขประจําตัวประชาชนรูปถ่าย ลายมือชื่อ สํานักงานที่สังกัดและให้มีติดตัวอยู่ในขณะกระทําการทวงถามหนี้ เพื่อใช้แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ หรือบุคคลตามมาตรา ๘วรรคสอง (๒) แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. ๒๕๕๘
(๗) ในการกําหนดค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้กําหนดให้สอดคล้องและไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ประกาศกําหนด และให้ปิดประกาศไว้โดยเปิดเผย ณ สํานักงานของผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้
(๘) อบรมและกํากับดูแลให้พนักงานทวงถามหนี้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้และหลักเกณฑ์ที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
(๙) ดําเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ประกาศกําหนด
ข้อ ๖ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต้องเก็บรักษาความลับของลูกหนี้ และไม่แจ้งหรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่เก่ียวข้องกับการทวงถามหนี้
ข้อ ๗ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต้องเก็บสําเนาหลักฐานการรับเงินจากลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ไว้ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้
ข้อ ๘ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต้องจัดระบบช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนให้ลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้อย่างน้อยสองช่องทาง

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ประธานกรรมการกํากับการทวงถามหนี้