อสังหาฯริมแม่น้ำฮอต มูลค่าพัฒนา2แสนล้าน

อสังหาฯริมแม่น้ำฮอต มูลค่าพัฒนา2แสนล้าน

อสังหาฯริมแม่น้ำเจ้าพระยาฮอต มูลค่าพัฒนา 2 แสนล้าน คาดในระยะ 3-5 ปีจากนี้ จะก้าวเป็นทำเลใจกลางธุรกิจ

​นายเดชา ตั้งสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จำกัด เจ้าของโรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา เปิดเผยถึงภาพรวมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งเจริญกรุง และเจริญนคร คาดในระยะ3-5ปีจากนี้ จะก้าวเป็นทำเลใจกลางธุรกิจ (ซีบีดี)ได้ และในอนาคตมีแนวโน้มจะการขยายการลงทุนเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ 7-8 เกิดขึ้นแล้ว ทั้งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังไม่ได้ก่อสร้าง มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการมิกซ์ยูส ระดับ5-6ดาว ทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม อาทิ เอเชียทีค ขยายเฟส 2 3 และ 4,แม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดมิเนียม,เจ้าพระยา เอสเตท,ยานนาวา ริเวอร์ฟร้อนท์,ดิ ไอคอน สยาม,ยอดพิมานริเวอร์ วอล์ค

นอกจากนี้ ทำเลนี้มีความได้เปรียบทำเลอื่น คือ การคมนาคมทางเรือ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีสะพานตากสิน) และรถไฟใต้ดิน (สถานีสนามไชย) รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐในส่วนของแผนงานสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง2แห่ง คือ สะพานถนนจันทน์-เจริญนคร และสะพานท่าราชวงศ์ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งเจริญนคร และเจริญกรุง มีการปรับราคาขึ้นมา จากในช่วง2-3ปี ที่1.4-1.5แสนบาทต่อตร.ว. เป็นกว่า4.5แสนบาทต่อตร.ว.

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทเตรียมที่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่ซึ่งเป็นมิกซ์ยูส พื้นที่ทั้งหมด6ไร่ โดยตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกับโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ ประกอบไปด้วยคอนโดมิเนียม สูง15ชั้น จำนวนรวม450ยูนิต และโรงแรมระดับ5ดาว จะใช้เชนบริหารจากต่างประเทศสัญชาติอเมริกัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา คาดปลายปีนี้จะสามารถสรุปได้ว่าจะใช้เชนของแบรนด์อะไร ขณะที่คอนโดมิเนียม คาดเปิดขายราคาตั2แสนบาทต่อตร.ม. นอกจากนี้ยังจะมีศูนย์ประชุมขนาดบรรจุคนได้2,000คน

ทั้งนี้โครงการมิกซ์ยูสดังกล่าว จะเริ่มเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ และจะเริ่มเปิดขายในส่วนของคอนโดฯก่อนจำนวน100ยูนิต แต่จะสามารถเปิดให้บริการโครงการอย่างเป็นทางการได้ภายใน3ปี หรือประมาณปี2562

ส่วนความคืบหน้าโครงการ"แม่น้ำ เรสซิเดนท์" เป็นคอนโดมิเนียมหรู บริเวณถนนเจริญกรุง บนพื้นที่5ไร่เศษ จากทั้งหมด11ไร่ สูง54ชั้น ขนาดตั้งแต่44-285ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่7.9-60ล้านบาท จำนวน294ยูนิต มูลค่าโครงการ4,000ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวเมื่อ2ปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว90-95%ปัจจุบันยูนิตที่เหลือขายส่วนมากคือห้องขนาดใหญ่ ระดับราคา 25 ล้านบาท และห้องเพ้นท์เฮ้าส์ราคา 60 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการ 4,000 ล้านบาทสิ้นปีนี้