แกนนำพธม.ขึ้นศาลสู้คดี นำม็อบไล่รัฐบาลสมัคร

แกนนำพธม.ขึ้นศาลสู้คดี นำม็อบไล่รัฐบาลสมัคร

"จำลอง - สนธิ - แกนนำพธม. รวม 9 คน"ขึ้นศาลสู้คดี นำม็อบเสื้อเหลืองดาวกระจายปี 51 ปิดสถานที่ราชการ ไล่รัฐบาลสมัคร

ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีแกนนำพันธมิตรประชาชาเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช หมายเลขดำ อ.3973/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต. จำลอง ศรีเมือง อายุ 78 ปี , นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 66 ปี , นายพิภพ ธงไชย อายุ 68 ปี , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 63 ปี , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 68 ปี , นายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 41 ปี , นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อายุ 64 ปี , นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี อายุ 57 ปี และนายเทิดภูมิ ใจดี อายุ 72 ปี แกนนำพันธมิตรฯ เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดฯ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนในหรือใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร , ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการโดยผู้กระทำคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , 215 และ 216  

โดย อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.58 ระบุพฤติการณ์ สรุปว่า วันที่ 25 พ.ค.51 จำเลยทั้งเก้า จัดชุมนุมใหญ่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวร เขตพระนคร กทม. โดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 5 คัน เป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ ติดตั้งเครื่องขยายเสียงและลำโพง แล้วเคลื่อนขบวนไปตามถ.ราชดำเนิน มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อรถเวทีปราศรัยเคลื่อนผ่านไปบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีเจ้าพนักงานตำรวจตั้งแถวสกัดกั้นเอาไว้ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแนวกั้นไปได้ แล้วปิดการจราจร ถ.ราชดำเนินนอก ตั้งแต่สี่แยกมัฆวานรังสรรค์ ไปจนถึงสี่แยก จปร.เป็นที่ชุมนุมประท้ว จนถึงวันที่ 5 ต.ค.51 โดยได้มีการตั้งเวทีถาวร กางเต็นท์ โรงครัวปรุงอาหาร ขึงลวดหนาม กั้น ถ.ราชดำเนินนอก ห้ามบุคคลเข้า-ออกบริเวณที่ชุมนุมตั้งกองกำลังรักษาความปลอดภัยเรียกว่า “นักรบศรีวิชัย” 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดเตรียมเครื่องมือเช่น ไม้เบสบอล หนังสติ๊ก ท่อนเหล็ก เพื่อใช้เป็นอาวุธ ส่อไปในทางที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงถึงขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในประเทศ ส่วนบนเวทีปราศรัยจำเลยทั้ง 9 คน ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล นาย ฝสมัคร สุนทรเวช โดยจัดการปราศรัยปลุกระดมมวลชนที่มาฟังและร่วมชุมนุมไปตลอด 24 ชั่วโมง โดยร่วมกันชักชวนผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนกระทำการปิดถนนสาธารณะ และเคลื่อนกำลังไปในลักษณะ “ดาวกระจาย” ใช้รถยนต์บรรทุกเป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ไปกดดันบริเวณสถานที่ราชการหลายแห่ง

เช่น กระทรวงการต่างประเทศ , สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) , กระทรวงมหาดไทย , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงการคลัง และสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โรงเรียน สถานศึกษา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณที่ชุมนุม ต้องหยุดการเรียนการสอนหลายครั้งเนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยจากการชุมนุมในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลอีกด้วย  

โดยวันนี้ จำเลยทั้งหมด 9 คน เดินทางมาศาล ซึ่งศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องแล้วสอบคำให้การ จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี 

ขณะที่ ทนายความจำเลย ได้แถลงต่อศาลว่า จำเลยที่ 1-3 , จำเลยที่ 6-8 และ จำเลยที่ 9 ขอให้สืบพยานลับหลังจำเลยดังกล่าวด้วย เนื่องจากไม่สะดวกที่จะมาศาลทุกนัด 

ศาลพิเคราะห์แล้ว จึงกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนคำร้องที่จำเลยขอสืบพยานลับหลังนั้น ศาลจะพิจารณาโดยจะแจ้งคำสั่งว่าอนุญาตหรือไม่ ในนัดตรวจพยานหลักฐาน