ทนายยิ่งลักษณ์ย้ำโฆษกรบ.ไม่เข้าใจรับผิดคดีละเมิดจำนำข้าว

ทนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความส่วนตัวนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตรกล่าวถึง กรณีที่ พล.ต. สรรเสริญ เเก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผย ว่า รัฐบาลรู้สึกอ่อนระอาใจกับการขอเพิ่มพยาน จำนวน 18 ปากของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ในการดำเนินคดีความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว นั้น 

นายนรวิชญ์ กล่าวว่า การที่โฆษกรัฐบาลออกมาให้ข่าวเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจของ รัฐบาล และการทำหน้าที่ของโฆษกรัฐบาล “ในการอำนวยความยุติธรรม” ความจริงผลงานรัฐบาลก็แถลงไปแล้วจึงไม่มีอะไรที่ต้องรีบเร่งอีก  ในการทำหน้าที่ของโฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญยังไม่เข้าใจหลายเรื่อง เช่น 1.การอำนวยความยุติธรรม เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับ แม้แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ก็ได้รับรอง และคุ้มครองไว้

 2.เรื่องดำเนินคดีความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว นางสาวยิ่งลักษณ์ได้เคยเรียกร้องต่อรัฐบาลแล้ว หากเกิดความเสียหาย ก็ให้ไปดำเนินการฟ้องร้องที่ศาล ซึ่งถือว่าเป็นคนกลางให้เป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่รัฐบาลที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียมาดำเนินการสอบสวนและตัดสินเอง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐบาลเลือกที่จะสอบสวนและตัดสินเอง รัฐบาลก็ไม่ควรมาพูด ว่า “ระอาใจ” ในการอำนวยความยุติธรรม 

3. พยานที่เพิ่มจำนวน 18ปากล้วนแต่เป็นพยานที่ศาลท่านได้รับไว้เป็นพยานเกือบทั้งสิ้น การที่โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า “พยานบางท่านมองแทบไม่ออกว่าเกี่ยวข้องอย่างไร..” นั้น จึงเป็นการ “มโน” เองทั้งสิ้น อันเป็นการขัดต่อหลักการรับฟังข้อเท็จจริงอย่างยิ่ง 4. การที่โฆษกรัฐบาลออกมากล่าว เช่นนี้ อาจจะถูกมมองว่า รัฐบาลกำลังเร่งรีบไปหรือไม่ ทั้งที่มีพยานอีกหลายปากที่เกี่ยวข้อง และเกี่ยวเนื่องกับโครงการับจำนำข้าว ก็ยังไม่ได้สอบสวน  5. รัฐบาลจะเร่งรีบจะปิดสำนวนการสอบสวนไปหรือไม่ ทั้งที่คดีหมดอายุความในเดือนกุมภาพันธ์ 2560แต่หากการเร่งรีบปิดสำนวน เป็นเพียงเพราะต้องการสำนวนคดีแพ่งไปประกอบการเบิกความเป็นพยานของประธานการสอบสวนฯ ที่จะไปเบิกความในคดีอาญาในวันที่ 25มกราคม2559 นี้แล้ว หากเป็นเช่นนั้นจริง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังละเลยการอำนวยความยุติธรรมหรือไม่ 

นายนรวิชญ์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวนด้วยดีมาตลอด และพยานที่อ้างเป็นพยานทั้งหลาย ล้วนแต่เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และรู้เห็นในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ทั้งสิ้น

ทนายนรวิชญ์ จึงขอฝากถึง โฆษกรัฐบาล ในปีใหม่นี้ให้พล.ต.สรรเสิญ ไปนั่งสวดมนต์ ข้ามปีกับเขาบ้าง จะได้เป็นบุญกุศลต่อท่านบ้าง