โรดแม็พกรธ.
กรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้จัดทำ"โรดแม็พ"ที่ชัดเจน วางแผนการทำงานเป็นเก้าขั้น
ตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดเอาไว้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องทำงานให้แล้วเสร็จใน 180 วัน ซึ่งขณะนี้การทำงานก็คืบหน้ามาเรื่อยๆ โดยทำควบคู่กันไปทั้งการร่างตัวบทบัญญัติ และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
และจากกนี้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้จัดทำ"โรดแม็พ"ที่ชัดเจน วางแผนการทำงานเป็นเก้าขั้น ประกอบด้วย 1.ภายในวันที่ 8 ม.ค.2559 กรธ.จะพิจารณาความคิดเห็นของประชาชนและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย เพื่อนำมาร่างแต่ละหมวดให้แล้วเสร็จ
2.ระหว่างวันที่ 11-17 ม.ค. 2559 เดินทางไปเก็บตัวที่ต่างจังหวัด เพื่อพิจารณาร่างทั้งฉบับให้แล้วเสร็จ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้กรรมกาฯมีสมาธิกับการทำงานอย่างเต็มที่
3.ระหว่างวันที่ 18-26 ม.ค. 2559 เป็นช่วงเวลาที่จะจะทบทวนร่างและถ้อยคำ บทเฉพาะกาล และสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ สำหรับพิมพ์เผยแพร่
4.วันที่ 29 ม.ค เป็นวันที่ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกใหัหน่วยงานนำไปเผยแพร่ต่อประชาชาน เพื่อรับฟังความคิดเห็น
5.ภายในวันที่ 15 ก.พ. 2559 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และบุคคลทั่วไป จะต้องส่งความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณา
6.ระหว่างวันที่ 16 ก.พ. - 20 มี.ค. 2559 เป็นการปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอแนะที่เสนอมา
7. ระหว่างวันที่ 21-28 มี.ค. 2559 ตรวจสอบความสอดคล้องของถ้อยคำ
8.วันที่ 29 มี.ค. 2559 จะเป็นวันที่ร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ
และ 9.วันที่ 30 มี.ค. ทำพิธีส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญให้กับรัฐบาล ทันตามเวลาที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดเอาไว้
เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว รัฐบาลก็จะนำร่างที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทำเสร็จ ส่งต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนำไปทำประชามติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน โดยก่อนทีจะกำหนดวันประชามตินั้น กกต. ต้องแจกร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ถึง 80% ของครัวเรือนทั้งหมด ทั้งนี้คาดว่าการลงประชามติจะเกิดขึ้นในราวเดือน ก.ค. 2559
อย่างไรก็ตามหน้าที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญก็ใช่ว่าจะแล้วเสร็จลง เพราะช่วงที่เตรียมการประชามตินั้นพวกเขาก็มีหน้าที่ที่จะรณรงค์ให้เห็นข้อดีของร่างฉบับที่เขียนขึ้น และหากรัฐธรรมนูญผ่านพวกเขาก็ต้องอยู่ต่อเพื่อจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ดูท่าว่าจะมีเป็นจำนวนมาก เพราะหลักของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเขียนให้สั้นและเขียนเฉพาะในเรื่องที่เป็นหลักการเท่านั้น ส่วนเรื่องรายละเอียดจะไปกำหนดในกฎหมายลูกนั่นเอง ซึ่งคาดว่าระยะเวลาที่จะใช้ทำกฎหมายลูกน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง
แต่ที่น่าสนใจคือ แม้การร่างรัฐธรรมนูญจะคืบหน้าไปเรื่อยๆ และเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนก็จะเห็นร่างแรก แต่เนื้อหาที่อยู่ภายในนั้นสิ่งที่สังคมรับรู้กลับเป็นเพียงการคาดการณ์จากการแถลงข่าวทั้งสิ้น เนื่องจากในการประชุมกรรมการร่างรัฐธรรมนูญนั้นไม่เปิดโอกาสให้เข้าร่วมรับฟังอย่างใกล้ชิดแต่อย่างใด