'ประยุทธ์'ปัด'สุเทพ'ช่วยรัฐบาล ขออย่าขัดแย้งกันอีก

'ประยุทธ์'ปัด'สุเทพ'ช่วยรัฐบาล ขออย่าขัดแย้งกันอีก

“พล.อ.ประยุทธ์” ปัด “สุเทพ” ช่วยรัฐบาล ขออย่าขัดแย้งกันอีก ลั่นไม่ขอตอบโต้ใครให้เสียกิริยา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าตอนนี้รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งซึ่งก็ต้องให้ความช่วยเหลือมากน้อยไปตามลำดับและอยากขอร้องทุกคนติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงและอยากให้ฟังบางคนที่เขาพูดในสิ่งที่ดีและช่วยกันขยายความ ถ้ามัวแต่ขยายความในสิ่งไม่ดี ประเทศไทยมันก็ไม่น่าอยู่เลย มีทั้งปัญหาความขัดแย้ง การเมืองก็ขัดแย้ง รัฐบาลนี้ก็ลำบากที่จะปฏิรูปให้กับท่าน ขอให้ดูในสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำในสิ่งดีๆ ให้บ้าง 

“ขอให้ช่วยกันหน่อย ไอ้คนที่ทำดีให้ตายเขาไม่เห็นความดีของผมก็ไม่อยากไปต่อสู้อีกแล้ว ประชาชนก็เลือกบริโภคว่าจะเชื่อในสิ่งไหนเพราะผมก็ทำให้เห็นอยู่ทุกวัน วันนี้ก็ทำหลายๆ อย่างและคนที่มาพบกับผมเขาก็ให้กำลังใจว่าสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว แต่ทำไมคนบางคนทำอย่างนี้ไม่ได้ จ้องแต่จะจิกตีทุกเรื่อง แล้วประเทศไทยจะเดินไปทางไหนกัน มันไปไม่รอดหรอก ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผมจะมายังไงหรือใครจะเป็นรัฐบาลก็คงจะโดนทั้งหมด แล้วประเทศไทยจะไปยืนตรงไหน ทำไมเราไม่ใช้เวลาตรงนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปฏิรูป ทั้งระยะที่ 1 และการเตรียมการให้กับรัฐบาลหน้า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่คิดแต่ว่าคนนี้จะเข้ามา คนนั้นจ้องแต่จะล้มรัฐบาล ไอ้นี่เตรียมจะอยู่ต่อ ผมไม่เคยพูดสักคำ แต่ผมก็จะไม่ไปตอบโต้อะไรอีกแล้ว เว้นแต่บางวันที่ทนไม่ไหว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และคณะกรรมการมูลนิธิ กปปส.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าการทำรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค.เพื่อต้องการอำนาจในการบริหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธทันทีว่า “ไม่เอา ผมไม่ตอบโต้ ช่างเขาสิ เขาอยากจะถามเรื่องอะไรก็เรื่องของเขา ก็ถือว่าเขาเป็นคนคุ้นเคย เคยรู้จักกันอยู่แล้ว ผมก็รู้จักทุกรัฐบาลนั่นแหละ วันนี้ถ้าพูดกันไปมา แล้วผมไปตามอยู่อย่างนั้นก็หงุดหงิดไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้ว ใครอยากจะพูดก็พูดไปเถอะ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลต้องมีความละเอียดรอบคอบ มีหลายอย่างที่ต้องแก้ไขแต่ไม่ใช่จะสั่งโครมๆ แล้วทำได้เลย เพราะถ้าทำอย่างนั้นจะกลายเป็นภาระในอนาคต จะให้อนุมัติง่ายๆ คงไม่ได้ เพราะทุกอย่างคือเงินของประชาชน ซึ่งตนขอยืนยันว่า ตนไม่เคยต้องการประโยชน์อะไรสักอย่าง รวมทั้งได้สั่งการให้ทุกคนระมัดระวัง ขณะนี้ยังมีข่าวคราวในโลกโซเชียลต่างๆ นานายืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่ถ้าใครมีข้อมูลข้อเท็จจริงให้บอกกับตนมาตรงๆ จะดำเนินการสอบสวนให้ ถ้าไปเขียนหรือวิจารณ์กันไปมาก็คงไม่เหลือใครดี อีกทั้ง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกก็ผ่านความเห็นชอบแล้วก็ขอให้ไปดูกันว่ามีระเบียบกติกาอย่างไร

“ถ้าบอกว่ารัฐบาลผมไม่ดีคงไม่เหลือใครดีแล้ว เพราะผมพยายามเลือกคนดี คนมีคุณธรรมเข้ามาทำงานให้พิสูจน์ฝีมือให้เห็นว่า การทำหน้าที่ดีๆ ทำอย่างไร ผมให้โอกาสกับทุกคน ไม่ได้ไปรังเกียจใคร ฝ่ายการเมืองผมก็จำเป็นเพราะผมเข้ามาอย่างนี้ ถ้าผมจะเอาฝ่ายการเมืองเก่าๆ มาทำงานกับผมมันก็คงไปกันไม่ได้ หลายคนก็เลยยังไม่เข้าใจผม ออกมาว่าผมทุกวันเพราะเขามีอำนาจอยู่แล้วผมไปเอาอำนาจเขามา แต่ยืนยันว่าผมเอามาทำในสิ่งที่ดีกว่าในระยะยาว แต่ระยะสั้นอาจจะยังไม่เห็น ทั้งเรื่องการลงทุนทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงโครงสร้างต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปี ซึ่งถึงเวลานั้นผมคงไม่อยู่แล้ว ก็ต้องให้รัฐบาลใหม่มาทำ ซึ่งถ้าเขาไม่ทำก็ล้มเหลวอีก แล้ววันหน้าก็กลับมาด่าผม ว่าผมไม่ได้ทำอะไรทั้งๆ ที่ผมเริ่มให้แล้ว ทุกอย่างก็จะไปอยู่ในรัฐธรรมนูญว่าจะทำอะไรกันต่อไป”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนรัฐธรรมนูญ อย่าเอาตนไปเกี่ยวข้องอะไรมากนัก เพราะการที่ตนตั้งขึ้นมาก็เพื่อให้รับฟังความคิดเห็นของคนและหาข้อสรุปออกมา ถ้าผ่านความเห็นชอบก็ไปทำประชามติแล้วก็ไปเลือกตั้ง ตนไม่มีหน้าที่ที่จะไปสั่งให้ผ่านหรือไม่ผ่าน 

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีทำใจแล้วหรือยังว่าหากร่างฯ ไม่ผ่านจะต้องอยู่ทำงานต่อไปอีก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเขาเขียนไว้อย่างไร ถ้าไม่ผ่านก็ต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่เท่านั้นเองและถ้าต้องอยู่ต่อก็เป็นเพราะด้วยความจำเป็น ไม่เช่นนั้นใครจะเข้ามาเป็น สื่อจะเข้ามาเป็นแทนตนหรือไม่ล่ะ

“ผมก็อยากทำหน้าที่ให้มันเสร็จและให้เริ่มต้นด้วยดี ให้มีอนาคต ทุกคนเห็นร่วมกันแต่ก็ยอมรับว่าจะให้คนทั้ง 70 ล้านคน เห็นพ้องต้องกันเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเอาคนที่หวังดี คนที่มุ่งหวังว่าจะทำประเทศให้เป็นอย่างไรก็มีอยู่มาก ซึ่งวันนี้ต้องออกมาช่วยผม ว่าสิ่งที่ผมทำมันมีอนาคต บางคนบอกว่าสิ่งที่ผมทำนั้นดี แต่ไม่ออกมาช่วยผมพูดก็ขอร้องว่าให้เอาตัวออกมาช่วยด้วยแล้วกัน เพราะอีกฝ่ายที่เขาไม่ชอบ เขาก็จะออกมาต่อต้านผมทุกเรื่อง แต่ถ้าผมไปตอบโต้โดยตรง ผมก็จะเสียกิริยาอีก และผมก็เป็นนายกฯ ที่สุภาพเรียบร้อยด้วย ความจริงผมก็เป็นคนเรียบร้อย”

เมื่อถามว่า แต่วันนี้กลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส. ออกมาสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาไม่ได้มาช่วยตน นายสุเทพต้องช่วยบ้านเมืองในนามของมูลนิธิ กปปส.ก็ว่าไป อย่าลืมว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่อยู่ในสภาวะพิเศษตั้งขึ้นมาในสถานการณ์พิเศษก็ต้องบริหารงานและปฏิรูปในระยะที่ 1 เตรียมส่งต่อในระยะที่ 2 และเตรียมการเลือกตั้งให้ได้อย่างเรียบร้อย ให้เป็นไปตามกติกา เพราะฉะนั้น ใครจะออกมาทำอะไรก็ขอให้อยู่ภายใต้กติกาของกฎหมายที่ระบุชัดเจนว่า วันนี้ทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง

“ถึงท่านจะพูดสนับสนุนอย่างไรก็แล้วแต่ผมก็ขอขอบคุณเป็นการส่วนตัว เพราะรู้จักกันมาก่อน แต่ก็ขอร้องว่าอย่าให้เกิดความขัดแย้งกันอีกเลย วันนี้ในเมื่อผมเป็นกรรมการออกมาแล้ว ผมก็ต้องเป็นกรรมการที่เป็นธรรม เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนช่วยกันทำให้เกิดความสงบ ช่วยกันไตร่ตรองศึกษาเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะแก้ไขหรือทำอะไร ถ้าเป็นความเห็นชอบร่วมกันมันไปได้หมด ผมเองก็จะไปแก้ปัญหาที่คาราคาซังที่มีอยู่มากมายเพราะตอนนี้ยังไม่จบสักอันเดียวแล้วจะมากล่าวหาว่าผมเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วยังทำอะไรไม่เสร็จสักอย่างก็ต้องยอมรับว่าจะให้จบได้อย่างไรเพราะแรงต่อต้านมีมาก ถ้าผมใช้อำนาจแก้ไขปัญหาก็จะถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจแล้วจะให้ผมทำอย่างไร ยืนยันว่าตอนนี้พยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่” 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องพลังงาน ตอนนี้รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไข ขอร้องว่าอย่าเพิ่งมาตีกันเลย ถ้ามัวแต่ฟังว่าอีกฝ่ายหนึ่งต้องการที่จะสร้างเพื่อให้เกิดความมั่นคงในอนาคต แต่อีกพวกก็เป็นห่วงว่าอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดตนขอยืนยันว่าถ้าไม่ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ และการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ หรืออีเอชไอเอ ก็ทำไม่ได้ถึงจะประมูลไปแล้ว เพราะการประมูลที่ทำไปนั้นก็เพื่อให้มีการบริการต่อเนื่อง แต่ถ้ามันไม่ผ่าน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร 

“ขอให้ไว้ใจรัฐบาลนี้เถอะ ผมก็จะทำอย่างเต็มที่ ผมยังอยู่ตรงนี้ ยังไงผมก็คงไม่ปล่อยให้มันเสียหาย เพราะตนเห็นใจประชาชนอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว