ยื่นหนังสือเชิญ'ประยุทธ์' ร่วมงานรำลึก23ปีพฤษภาประชาธรรม

ยื่นหนังสือเชิญ'ประยุทธ์' ร่วมงานรำลึก23ปีพฤษภาประชาธรรม

ญาติวีรชนพฤษภา35 ยื่นหนังสือเชิญ"พล.อ.ประยุทธ์" ร่วมงานรำลึก"23ปีพฤษภาประชาธรรม"

ที่ศูนย์บริการประชาชน(ฝั่งก.พ.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 พร้อมด้วยบรรดาญาติวีรชนกว่า20คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อเรียนเชิญร่วมงาน 23 ปี พฤษภาประชาธรรม โดยมีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เป็นผู้รับเรื่อง สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 ธันวาคม 2546 ได้กำหนดให้วันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวัน “พฤษภาประชาธรรม” เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เดือนพฤษภา 2535 และให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดงานรำลึกวัน “พฤษภาประชาธรรม” ร่วมกับคณะกรรมการญาติวีรชนฯ มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมจัดงานในวันดังกล่าวมาทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง และในวาระครบรอบ 23 ปี ทางคณะผู้จัดงานได้กำหนดให้มีพิธีรำลึกเหมือนเช่นทุกปี ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค.นี้ ดังนั้นเพื่อให้กิจกรรมในปีนี้ บรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ จึงใคร่ขอเรียนเชิญ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธี

โดยนายอดุลย์ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ23ปี พฤษภาทมิฬ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เชิญดวงวิญญาณวีรชนผู้ต่อสู้เสียสละชีพกลับบ้าน โดยจะมีพิธีบรรจุอัฐิ และทอดผ้าบังสกุล อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียนเชิญทางนายกรัฐมนตรี ภาครัฐ ประชาชน พร้อมด้วยกลไกแม่น้ำ5สาย ทั้ง คณะรัฐมนตรี(ครม.) คสช. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ตลอดจนพรรคการเมืองทั้ง ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย และกลุ่มมวลชนทั้ง คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งาชติ(นปช.) และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมไปถึงกลุ่มการเมืองต่างๆที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ความขัดแย้ง มาร่วมภายในงาน

“เหล่าวีรชนทุกคน อยากเห็นประชาชนคนไทยที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่ขัดแย้งกันอีก จึงขอเชิญมาร่วมงานดังกล่าวด้วย และขอขอบคุณ” นายอดุลย์ กล่าว

สำหรับพิธีบรรจุอัฐิวีชนเดือนพฤษภา 35 ภายในอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม จะมีผู้แทนศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม มาเป็นผู้นำการประกอบพิธี รวมทั้งตัวแทนกลุ่มการเมืองที่เคยร่วมเหตุการณ์ความขัดแย้ง มาร่วมพิธีทอดผ้าบังสกุลและเป็นสักขีพยานด้วย โดยขณะผู้จัดงานมุ่งหวังที่จะให้พิธีการนี้เป็นคุณุประการสำหรับสังคมไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง และนำบทเรียนในประวัติศาสตร์มาร่วมสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ยั่งยืน มีความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสร้างความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งทุกฝ่ายต่างคาดหวัง ที่จะเป็นผู้นำสร้างความปรองดองและหลอมรวมหัวใจทุกฝ่ายให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อร่วมกันนำพาประเทศชาติเดินไปข้างหน้าด้วยกัน