อัยการ ขอรวมสำนวนฟ้อง'บ.ไร่ส้ม–สรยุทธ์'กับ'พิชชาภา'

อัยการ ขอรวมสำนวนฟ้อง'บ.ไร่ส้ม–สรยุทธ์'กับ'พิชชาภา'

อัยการ ขอรวมสำนวนฟ้อง"บ.ไร่ส้ม–สรยุทธ์" กับ"พิชชาภา อดีต จนท.คิวโฆษณา อสมท."เบี้ยวจ่ายค่าโฆษณาส่วนเกินรายการ" คุย คุ้ยข่าว"

ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.313/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัทไร่ส้ม จำกัด โดย น.ส.อังคนา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม , นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา อายุ 49 ปี พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง และ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม และ น.ส.มณฑา ธีระเดช อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลย 1-3 ในความผิดฐาน เป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร , เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ว่า ด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ม.6 , 8 และ 11 ซึ่งอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 ม.ค.58 กรณีกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.48 - 28 เม.ย.49 นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำคิวโฆษณารวมในรายการ “ คุย คุ้ยข่าว” ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลา จาก บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 1 จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท. เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียก รับเอาเงิน 658,996 บาท จากจำเลยที่ 1-3 เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภา ไม่รายงานการโฆษณา   

โดยวันนี้อัยการโจทก์ , ผู้แทนบจก.ไร่ส้ม นายสรยุทธ์เดินทางมาศาล รวมทั้ง นางพิชชาภา ที่อัยการ เพิ่งได้ตัวยื่นฟ้องเป็นจำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ.342/2558 เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ และเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต  

ขณะที่อัยการโจทก์ ได้ยื่นคำร้องขอรวมทั้ง 2 สำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากคดีมีพฤติการณ์เกี่ยวพันกัน และมีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน โดยที่คู่ความได้แถลงต่อศาลด้วยว่า หากอนุญาตรวมสำนวนคดีขอให้เรียกนางพิชชาภา จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.342/2558 เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยทั้งสามในคดีหมายเลขดำ อ.313/2558 เป็นจำเลยที่ 2-4 ตามลำดับ เพื่อสะดวกในการพิจารณาคดีและให้เหมาะสมตามพฤติการณ์ในสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่กล่าวหาและอัยการยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามในคดีหมายเลขดำ อ.313/2558 ฐานเป็นผู้สนับสนุนนางพิชชาภา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 

ศาลพิจารณาและสอบถามคู่ความแล้วไม่คัดค้าน ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการพิจารณาคดี จึงอนุญาตให้รวมสำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้นางพิชชาภา เป็นจำเลยที่ 1 , บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 2 , นายสรยุทธ เป็นจำเลยที่ 3 และ น.ส.มณฑา เป็นจำเลยที่ 4 

อย่างไรก็ดีวันนี้ มีเพียงทนายความของบจก.ไร่ส้มมาศาล ส่วนจำเลยอื่นมีผู้มอบฉันทะจากทนายความมาร่วมพิจารณาคดี ซึ่งได้ยื่นคำร้องของศาลเลื่อนนัดพร้อมประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน เนื่องจากติดว่าความในคดีอื่น 

ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้ว ให้นัดประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง วันที่ 8 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น. โดยให้โอกาสคู่ความยื่นคำโต้แย้งเกี่ยวกับคดีโดยละเอียดภายใน 15 วันด้วย