'บรรยง'คาดแผนปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจเสร็จสิ้นปีนี้

นายบรรยง พงษ์พานิช คณะกรรมการการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ กล่าวถึงเครื่องมือที่ประเทศไทยควรนำมาใช้ในการป้องกันการคอร์รัปชั่น หลังการจัดอันดับดัชนีการชี้วัดความโปร่งใส พบประเทศไทยอยู่อันดับที่ 85 ของโลก ว่า ขณะนี้รัฐบาลเริ่มนำเครื่องมือหลายอย่างมาใช้ เช่นกระบวนการเปิดเผยข้อมูลในระดับมาตราฐานเดียวกับบริษัทเอกชน และพัฒนาระบบการเปิดเผยข้อมูล ส่วนการเปิดเผยข้อมูลระดับโครงการนั้นได้นำเรื่องข้อตกลงระบบคุณธรรม และให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อความโปร่งใสในธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งมีโครงการนำร่อง คือโครงการจัดซื้อรถเมล์ ขสมก. และการเจรจาให้สัมปทานบริษัทเอกชนร่วม โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิส่วนต่อขยาย

นายบรรยง ยังกล่าวอีกว่า หน่วยงานรัฐวิสาหกิจก็ต้องปรับโครงสร้างให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ไม่รั่วไหล เพราะการปฏิรูปในระดับใหญ่ต้องมีการเตรียมการซึ่งตามโรดแมปน่าจะเสร็จทันสิ้นปีนี้

เมื่อถามว่า ไทยมีความจำเป็นต้องผลักดันเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่นให้เป็นพันธกิจ หรือไม่ นายบรรยง กล่าวว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามคอร์รัปชั่นเป็นส่วนที่ต้องทำคู่กันและทำเป็นพันธกิจอยู่แล้ว

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทย เพิ่มขนาดบทบาทอำนาจรัฐผ่านรัฐวิสาหกิจ ผ่านโครงการประชานิยม สถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งเป็นการสวนกระแสโลกที่กำลังลดบทบาทรัฐ จุดนี้เป็นประเด็นปัญหาความไม่โปร่งใส เกิดแรงจูงใจขยายบทบาทอำนาจรัฐ นำไปสู่วงจรอุบาทว์ในการคอร์รัปชั่น” นายบรรยง กล่าว