โรงแรม “ปิซ่า”

 โรงแรม “ปิซ่า”

ทางการอิตาลีกำลังถูกวิจารณ์ยับหลังจากมีข่าวว่ากำลังจะเปลี่ยนหอเอนเมืองปิซ่าให้กลายเป็นโรงแรมหรู

ถ้าข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติ โรงแรมที่จะมีชื่อว่า “3.99 Degrees” ที่ตั้งตามมุมเอนของหอจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่นเพื่อนำมาใช้ในการดูแลรักษาอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ โดยคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวระดับเศรษฐีจะยอมควักกระเป๋าจ่ายค่าห้องพักคืนละมากกว่า 20,000 ยูโร หรือ 720,000 บาท เพื่อไปนอนอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์


เอกสารรายละเอียดของโครงการนี้ถูกเผยแพร่ในสื่ออังกฤษแห่งหนึ่งซึ่งระบุว่า พื้นที่แต่ละชั้นของหอเอนจะได้รับการปรับปรุงเพื่อทำเป็นห้องพักหนึ่งห้องที่มีขนาดใหญ่และมีมุมมอง 360 องศา แต่ละห้องจะตั้งชื่อตามศิลปินชื่อดังยุคเรอเนสซองส์ตั้งแต่ ไมเคิลแอนเจโล ราฟาเอล ลีโอนาร์โด ดาวินชี่ ไปจนถึงบอตติเชลลีและทิเชียน


ส่วนที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดและมีระเบียงชมวิวจะกลายเป็นไฮไลท์ของโรงแรมที่จะสร้างเป็นห้องสวีทชื่อว่า “กาลิเลโอ” ราคาเริ่มต้นคืนละ 50,000 ยูโร หรือ 1.8 ล้านบาท ติดอันดับห้องพักที่แพงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง


หอเอนปิซ่าได้รับข้อเสนอจากบริษัทลงทุนแห่งหนึ่งของดูไบที่ขอทำสัญญาเช่า 50 ปี เพื่อสร้างห้องพัก โดยกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ตามสัญญาเช่าระบุว่าค่าเช่าส่วนหนึ่งจะถูกนำมาใช้เป็นค่าบำรุงรักษาอาคารและสถานที่สำคัญอื่นๆ ในปิซ่า


แม้ในแผนจะไม่มีพื้นที่สำหรับการปรุงอาหารแต่จะมีการติดตั้งท่อประปาเพื่อสร้างห้องน้ำให้แขกที่เข้าพัก นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้โรงแรมเป็นพันธมิตรกับร้านอาหารท้องถิ่นเพื่อให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในห้องพัก


นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมจะยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทัวร์รอบๆ หอเอนและสามารถขึ้นบันไดเวียนไปยังชั้นบนสุดซึ่งจะเปิดให้บริการวันละ 2 ชั่วโมง


นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อิตาลีอาศัยเงินทุนจากเอกชนมาช่วยบูรณะมรดกทางประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้ Fendi แฟชั่นเฮาส์ชื่อดังของอิตาลีก็ออกเงินให้บูรณะน้ำพุเทรวี ในกรุงโรม จิวเวลรี่ชื่อดังอย่าง Bulgari ก็บริจาคเงินถึง 1.25 ล้านยูโรเพื่อซ่อมแซมบันไดสแปนิช สเต็ป


แต่ข้อเสนอล่าสุดที่หอเอนปิซ่ามีแต่คนไม่เห็นด้วย


"มันน่ารังเกียจมาก พวกเขาต้องการที่จะขายอาคารที่ยิ่งใหญ่ของเราให้กับคนที่ประมูลได้สูงสุด" ลีนา ลอตต้า สถาปนิกที่ได้รับการทาบทามจากนักการเมืองท้องถิ่นให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้กล่าว


มีอา ฟาโลว่า ไกด์ท้องถิ่นบอกว่า หอเอนปิซ่าเปิดให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านทั่วไปได้ขึ้นไปชมหลายต่อหลายยุค แต่ตอนนี้มันกำลังจะถูกหยิบยื่นให้กับคนรวยเพียงไม่กี่คน


"คิวนักท่องเที่ยวคงยาวมากเป็นพิเศษถ้าเปิดแค่วันละ 2 ชั่วโมง พวกเขากำลังยึดหอเอนปิซ่า" มีอากล่าว
...................
ที่มา เว็บไซต์เดลี่ เทเลกราฟ