หุ้นสหรัฐร่วงหวั่นวิกฤติเยเมน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 40.31 จุด หรือ 0.23% มาอยู่ที่ 17,678.23 จุด หลังจากในช่วงระหว่างวันซื้อขาย ดัชนีสำหรับหุ้นบลูชิพ ร่วงทะลุเส้น 17,000 จุดไปแล้ว ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นในช่วงท้ายของวัน

ขณะที่ดัชนี เอส แอนด์ พี 500 ปรับลดลง 4.90 จุด หรือ 0.24% มาอยู่ที่ 2,056.15 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็ก ลดลง 13.16 จุด หรือ 0.27% มาอยู่ที่ 4,863.36 จุด

เทรดเดอร์ชี้ว่า ตลาดตกอยู่ท่ามกลางความผันผวนอย่างหนัก หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรอาหรับ ภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบีย ตัดสินใจเข้าโจมตีเยเมนทางอากาศ

ขณะที่ข่าวนักบินผู้ช่วยสายการบินเยอรมันวิงส์ ตั้งใจทำเครื่องตก ประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น กดดันให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มสายการบิน

ทางด้านตลาดหุ้นหลักๆ ของยุโรป ปรับลดลงจากความวิตกในเรื่องเดียวกัน ทั้งกรณีเยเมน และนักบินผู้ช่วยเยอรมันวิงส์

ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ร่วงลง 1.37% มาอยู่ที่ 6,895.33 จุด ส่วนดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ลดลง 0.18% ที่ 11,843.68 จุด และดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.29% ปิดซื้อขายที่ 5,006.35 จุด

น้ำมันพุ่งแรงจากเหตุโจมตีเยเมน
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่เครื่องบินรบของซาอุดีอาระเบียเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏเยน จุดชนวนให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นในเยเมน อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อบรรดาผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ทะยานขึ้นมา 2.22 ดอลลาร์ หรือ 4.5% มาอยู่ที่ 51.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ พุ่งขึ้น 2.71 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 59.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล