หุ้นไทยซบ นักลงทุนโยกลุยตลาดญี่ปุ่น

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยืดเยื้อและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบในเร็ววัน ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงต้องเผชิญความผันผวน และมีความเสี่ยงที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัวลงไปอีก ทำให้ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวดี เช่น ญี่ปุ่น และประเทศในภูมิภาคเอเชียเหนือมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าการลงทุนในประเทศ

ทิสโก้ เวลธ์ ได้แนะนำให้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นตั้งแต่กลางปี 2556 ที่ผ่านมา และ บลจ.ทิสโก้ ได้เสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ฟันด์ (TISCO Japan Equity Fund)" เพื่อรองรับความต้องการลงทุนดังกล่าว ซึ่งปรากฎว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ทำให้ขณะนี้มีขนาดกองทุนใกล้เต็มมูลค่าโครงการที่ 1,000 ล้านบาท และยังมีนักลงทุนที่สนใจและต้องการลงทุนอยู่เป็นจำนวนมาก ล่าสุด บลจ. ทิสโก้ จึงเพิ่มทุนกองทุนดังกล่าวอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง

"กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้" จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวม ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ปรับตัวดีขึ้น จุดเด่นของกองทุนอยู่ที่สภาพคล่องสูง ซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ

"การเพิ่มทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ฟันด์ จำนวน1,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจจากนักลงทุนที่มีต่อทิสโก้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงกระแสการลงทุนของนักลงทุนที่หันมาลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้นอีกด้วย จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่เราแนะนำลงทุนในปีนี้ คือ ญี่ปุ่น และเอเชียเหนือ เนื่องจากเศรษฐกิจมีสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง"นายสาห์รัช กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ ยังอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #3” (TISCO Japan Equity Trigger 8% Fund #3) ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น อายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) มากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายตั้งแต่วันนี้ - 24 ก.พ. 2557 นี้ มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท