ตลาดจี้ 'เอิร์ธ' เร่งหาทางรอด

ตลาดจี้ 'เอิร์ธ' เร่งหาทางรอด

ตลาดจี้เอิร์ธเร่งหาทางรอด หลังแจงข้อมูลหนี้พุ่งใกล้7พันล้านแต่ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน เกาะติดกรณี“หุ้นเอบีซี”ส่อมีผู้ถือหุ้นใช้ข้อมูลภายใน

เอิร์ธชี้แจงการผิดนัดชำระหนี้ทั้งบีอีและหุ้นกู้ พบมูลหนี้ทะลุ 6.9 พันล้านบาท ขณะที่หนี้การค้าเพิ่ม 800 ล้านบาท ด้านตลาดหลักทรัพย์สั่งแจงข้อมูลเพิ่ม จี้หายทางออกบริษัทให้ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนกรณีหุ้นเอบีซีพร้อมเกาะติดหลังมีนักลงทุนร้องตรวจสอบพัวพันการใช้ข้อมูลภายใน

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) EARTH ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากการรายงานข้อมูลกับตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว พบว่า บริษัทมีหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า รวมถึงยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน

“ตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัทชี้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติม เพราะจะเห็นได้ว่าการชี้แจ้งรอบที่ผ่านมากลับมีหนี้ที่ไม่ได้แจ้งให้กับนักลงทุนได้รับทราบก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังไม่ชัดเจนว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ตั๋วบีอีนั้นยังไม่มีทางออก”

ทั้งนี้ ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ถูกพักการซื้อขายไปด้วยนั้น ตลาดหลักทรัพย์จะไม่มีการขยายอายุสัญญาให้แม้ว่าจะมีการครบอายุสัญญาในสิ้นเดือนนี้ก็ตาม ซึ่งสัญญาต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ ส่วนราคาที่จะมีการชำระเงินและส่งมอบนั้น ต้องรอการกำหนดที่ชัดเจนอีกครั้ง 

ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการสอบถามเพิ่มเติมไปยังบริษัท โดยระบุว่าจากกรณีที่ ตลาดหลักทรัพย์ หยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธตั้งแต่วันที่ 15มิ.ย. 2560 เนื่องจากบริษัทแจ้งการผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงิน ทำให้เข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 5,500 ล้านบาท และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอนาคต

จึงขอให้บริษัทชี้แจงว่าปัจจุบันบริษัท ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติ หรือไม่ อย่างไร และชี้แจงผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท ต่อมาวันที่ 20 มิ.ย. 2560 บริษัทชี้แจงข้อมูลว่ามีภาระหนี้ที่ผิดนัดหนี้ที่เข้าเงื่อนไขการผิดนัด และ หนี้ที่คาดว่าจะผิดนัดชำระภายในเดือนมิ.ย. 2560 รวม 6,952 ล้านบาท และการผิดนัดชำระหนี้ทำให้บริษัทต้องดำเนินธุรกรรมต่างๆ รูปแบบเงินสดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการบริหารสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทอย่างยากลำบาก 

การประกอบธุรกิจมีการชะลอตัว ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของ บริษัทในอนาคตจึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาผ่อนผันและข้อตกลงกับเจ้าหนี้ เนื่องจากคำชี้แจงของบริษัทยังไม่ได้อธิบายให้ทราบได้ว่า ปัจจุบัน บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอยู่หรือไม่ อย่างไร ประกอบกับข้อมูลที่ชี้แจงมานั้น ภาระหนี้ที่ผิดนัดชำระของบริษัทมีนัยสำคัญอันอาจกระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดำเนินงาน

โดยที่บริษัทยังไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ข้อมูลดังกล่าวเป็นสารสนเทศสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ จึงยังคง SP หุ้นเอิรธ์จนกว่าบริษัทจะชี้แจงข้อมูลได้ชัดเจนและครบถ้วน

มูลหนี้พุ่งใกล้7พ้นล้าน

นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ กล่าวว่า บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินและตั๋วบีอีแล้ว 1,047.12 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ตั๋วกู้เงินระยะสั้น ณ.วันที่ 15 มิ.ย. ที่ 160 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยการผิดนัดชำระหนี้ 7.5 % ต่อปี  นอกจากนี้ บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง และผิดนัดชำระหนี้ทั้งสิ้น 887.12 ล้านบาท 

การผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวจะเข้าเงื่อนไขการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 2 กองทุน วงเงิน 5.5 พันล้านบาท   โดยบริษัทคาดว่าจะมีการผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้ง 3 รายการ มูลค่าประมาณ 6,952 ล้านบาท คิดเป็น 19 % ของสินทรัพย์ทั้งหมด โดยความคืบหน้าบริษัทอยู่ระหว่างการหาแนวทางเป็นรูปธรรมในการชำระหนี้

รับเกาะติดเอบีซีกรณีอินไซด์ 

จากกรณีนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือครูอ้อย นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ กล่าวผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ของตัวเองว่าได้เข้าไปซื้อขายหุ้นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) ABC และมีการชักชวนกลุ่มลูกศิษย์เข้าไปลงทุน รวมถึงโยงไปถึงกรณีอาจสร้างราคาหุ้น และอาจใช้ข้อมูลภายใน จนทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ลงทุนบางคนนั้น

นางเกศรา กล่าวว่า กรณีความผิดปกติการซื้อขายหุ้น หรือการใช้ข้อมูลภายในนั้น ตลาดหลักทรัพย์ร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด โดยตลาดจะสามารถทำได้โดยการตรวจสอบเส้นทางการซื้อขายผ่านบริษัท ก.ล.ต.จะมีอำนาจหน้าที่มีมากกว่า หรือสามารถตรวจสอบในเชิงลึก

...รอดูหลักฐาน

นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ และสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากข้อเท็จจริงเท่าที่ปรากฏกรณีหุ้นเอบีซีนั้น คงยังสรุปไม่ได้ว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหลักทรัพย์หรือไม่ โดย ก.ล.ต.จะพิจารณาจากหลักฐานและข้อเท็จจริง หากอยู่ในส่วนที่ ก.ล.ต. ดูแล ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งผู้ที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถแจ้งมาที่ ก.ล.ต. ได้

สำหรับในเรื่องการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์โดยทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. มีระบบดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ก่อนที่ผู้ลงทุนจะตัดสินใจลงทุน ควรมีความรอบคอบและตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจะลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ควรขอคำแนะนำจากผู้ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์พบว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ บริษัท แอสเซท ไบร์ท ประกอบด้วย นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ 60.32% MR.SHINJI TANAKA4.56% น.ส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง1.50%

การเคลื่อนไหวราคาหุ้นเอบีซี ล่าสุดช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นแกว่งตัวอยู่ที่ 0.20-0.21 บาทต่อหุ้น