คสช.เรียกตัวทูตไทยในอังกฤษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น.วานนี้(29 พ.ค.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ นายปสันน์ เทพรักษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กลับมารายงานตัวด่วนต่อคสช. ที่กระทรวงการต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเรียกนายปสันน์ กลับมานั้น ได้มีการพูดคุยกันในกระทรวงการต่างประเทศ 2-3 วันแล้ว เนื่องจากนายปสันน์ มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกอบกับก่อนหน้านี้นายปสันน์ยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับหนังสือคัดค้านการเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 จากคนไทยในลอนดอน แต่ทั้งนี้ไม่มีใครยืนยันถึงเหตุผลที่ชัดเจน

ขณะที่ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ได้เรียกอดีตรัฐมนตรีแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นักการเมือง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จำนวน 36 คน ที่ถูกทหารควบคุมตัวตามประกาศคำสั่งเรียก และบุคคลที่ได้ปล่อยให้กลับบ้านไปแล้ว มาให้ข้อมูลเพิ่มต่อ คสช. และปรับทัศนะคติทำความเข้าใจร่วมกัน ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน

อาทิ นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายโภคิน พลกุล นพ.พรหมมินทร์ เลิศศิริเดช นายสุรนันทร์ เวชชาชีวะ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายประชา ประสพดี นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายสุรชาติ ลายน้ำเงิน

นายวรชัย เหมะ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช นายวรพงษ์ ตันติเวชยานนท์ นายอดิสร ผลลูกอินทร์ นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ นายจิรายุส ทรงยศ นายทยากร ยศอุบล นายสมศักดิ์ เกียรติพันชัย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายจุรีพร สินธุไพร นายอดิศร เพียงเกษ นายสำเริง ประจำเรือ นายภูมิ สาระผล นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ นายภูมิธรรม เวชยชัย นส.ขัตติยา สวัสดิผล นายปลอดประสพ สุรัสวดี

แหล่งข่าวทหาร ระบุว่า การนำบุคคลทางการเมือง หรือแกนนำมวลชน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมและพูดคุยถึงทัศนะคติ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการพิจารณาเป็นรายบุคคล หากไม่มีความคิดที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะปล่อยตัวให้กลับบ้าน แต่หากผู้ใดยังคงมีทัศนะคติที่ไม่ดีทาง คสช.จะมีมาตรการต่อบุคคลนั้นต่อไป หรืออาจต้องควบคุมตัวต่อ

ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. ระบุว่า คสช.ปล่อยตัวบุคคลที่ถูกเรียกให้มารายงานตัวตามคำสั่งคสช.จำนวน 31 คน อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, นายสนธิ ลิ้มทองกุล,นายแทนคุณ จิตต์อิสระ,นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ, นายโภคิน พลกุล, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช,นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล, นายสันติ พร้อมพัฒน์, นางสาวขัตติยา สวัสดิผล, นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์, นายอดิศร เพียงเกษ

กองทัพนำร่องจัดสลายสีเสื้อที่ปทุมฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคสช. ได้สั่งการให้ทุกกองทัพภาค ตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อสลายสีเสื้อ ล่าสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร2รอ.) จะเป็นประธานจัดกิจกรรม คสช.สร้างความปรองดองสมานฉันท์

โดยมีกำลังพลจากหน่วย กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ (ป.2.รอ. )เเละกองพันทหารม้าที่ 30 (ม.พัน.30) ในเวลา 10.00 น.-11.30 น. ที่บริเวณหน้าหมู่บ้าน เฟิร์สโฮม ตรงข้าม สถานีวิทยุเรดการ์ด(โกตี๋) จ.ปทุมธานี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนในพื้นที่เเละทหาร ช่วยเหลือประชาชน มีกิจกรรม อาทิดนตรี เทิดทูนสถาบัน ตัดผม บริการเเพทย์ อาหารว่าง น้ำดื่ม พร้อมหน่วยงานอื่นเข้าร่วม เช่นสถานีตำรวจภูธรคูคต เทศบาลคูคต โรงพยาบาลในพื้นที่

เชียงใหม่จับ"แดง-เหลือง"ถกปรองดอง

บ่ายวันเดียวกัน ที่สโมสรมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ เชียงใหม่ ได้มีการเชิญแกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่ นำโดยนายกฤษณพงษ์ พรมบึงรำ แกนนำเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ด.ต.พิชิต ตามูล และนายศรีวรรณ จันทร์ผง รวมทั้งแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยเชียงใหม่ นำโดยนายเอกชัย วิไลวรรณ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ในนามทหารเสือพระราชา มาหารือ โดยมี พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 เป็นประธาน เข้าร่วมหารือพุดคุยปัญหา สร้างความปรองดอง หาจุดยืนร่วมกันเพื่อหาทางออกให้กับเชียงใหม่ และทางออกประเทศ

พล.ต.ศรายุธ กล่าวว่า อยากจะสลายความแตกแยกการแบ่งกลุ่มแบ่งฝ่าย จึงได้เรียนเชิญทั้งสองกลุ่มสองขั้วความเห็นทางการเมือง เข้ามาพูดคุยร่วมกัน เพื่อให้ความคิดทั้งสองฝ่ายไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อทำให้สังคมได้เดินหน้า เริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่

"การพูดคุยในครั้งนี้ต้องการให้พี่น้องเชียงใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความปรองดอง โดยมีโครงการที่จะจัดตั้ง ศูนย์ปรองดอง ที่เป็นเวทีกลางสำหรับพูดคุยในทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเสื้อสีไหน รวมทั้งนักวิชาการ หรือประชาชน โดยจะมีการเชิญทุกฝ่ายมาหารืออย่างเป็นทางการ หาความต้องการที่ทุกคนยอมรับได้ ให้เกิดขึ้นจริง เราจะร่วมมือกันคืนความสงบสุขให้แก่ประชาชนและประเทศอย่างยั่งยืน"

ด้าน ด.ต.พิชิต กล่าวว่า การนำเอาความต้องการของแต่ละฝ่ายมาพูดคุย หาจุดยืนความต้องการร่วมกันอาจจะทำได้ แต่ต้องใช้เวลา มากกว่า 3-6 เดือน ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่า คสช.ควรรีบเซ็ตกติกาที่ทุกคนยอมรับได้ และรีบคืนอำนาจให้กับประชาชน

ขณะที่นายเอกชัย กล่าวว่า จุดยืนของเรายังคงต้องการการปฏิรูปก่อน ให้บ้านเมืองเข้าที่ถึงจะยอมให้มีการเลือกตั้ง บ้านเมืองเละมามากพอแล้ว ส่วนที่มีการพูดคุยทั้งสองฝ่าย จะมีการจัดตั้งศูนย์ปรองดองให้เกิดขึ้นนั้น ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะออกมาในแง่ไหน ครั้งนี้ยังเป็นแค่การเสนอความเห็นจากทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะมีเวทีจริงอย่างเป็นทางการกว่านี้เกิดขึ้น

ส่ง"จ่าประสิทธิ์"ขังคุกคดีหมิ่นเบื้องสูง

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 17.30 น.วานนี้ ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้อหาความผิดตามคำร้องและพยานหลักฐานในชั้นศาลอาญาที่อนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นความผิดมีอัตราโทษสูง และพฤติการณ์แห่งความผิดกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน จึงมีความร้ายแรง อีกทั้งผู้ร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว ดังนั้น จึงมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี หรือก่ออันตรายประการอื่นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป

ก่อนหน้านั้น ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหาร จากค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ ได้นำตัวจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง

ต่อมาเวลา 12.10 น.หลังสอบปากคำเสร็จ พ.ต.อ.น้ำเพชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.โชคชัย ได้คุมตัว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ขึ้นรถตู้ มายังศาลอาญา รัชดา เพื่อผลัดฟ้องฝากขัง 12 วัน โดยที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อศาล โดยมีครอบครัวของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ทั้งภรรยาและบุตรสาว มาให้กำลังใจ

ราชทัณฑ์ส่ง"เจ๋ง"อยู่เป็นเพื่อนจาตุรนต์

พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ว่า นายจาตุรนต์ถูกส่งตัวเข้าแดนแรกรับของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งการควบคุมตัวจะดำเนินการตามระเบียบปกติของเรือนจำ ไม่ได้สั่งการให้ดูแลเป็นพิเศษ

ส่วนการย้ายไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ยังไม่มีประเด็นให้พิจารณา เนื่องจากเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเป็นสถานที่สำหรับควบคุมผู้ต้องขังคดีการเมือง แต่นายจาตุรนต์ถูกส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯฯ ฐานขัดคำสั่ง คสช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจาตุรนต์ ถูกคุมขังอยู่ในแดนแรกรับ โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่แยกกับผู้ต้องขังรายอื่นก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหว ทั้งนี้คืนวันที่ 29 พ.ค.เรือนจำจะจัดให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ผู้ต้องขังคดีหมิ่นเบื้องสูง มาคอยช่วยดูแลเป็นเพื่อนนายจาตุรนต์ เบื้องต้นคาดว่า หากต้องย้ายจากแดนแรกรับ นายจาตุรนต์ อาจถูกแยกไปอยู่ในแดนการศึกษา เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับงานด้านการศึกษามาก่อน