‘สิงคโปร์-มาเลย์’ ผู้ชนะ ‘Green Data Center’ ดึงเงินเข้าอาเซียน 2.3 แสนล้าน

‘สิงคโปร์-มาเลย์’ ผู้ชนะ ‘Green Data Center’ ดึงเงินเข้าอาเซียน 2.3 แสนล้าน

ภูมิภาค “อาเซียน” เข้าสู่เทรนด์ “Green Data Center” ด้วยเงินลงทุนสีเขียวที่ไหลเข้ากว่า 230,000 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 21% จากปีที่แล้ว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีการลงทุนสีเขียวเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุน “ดาต้าเซ็นเตอร์สีเขียว ที่ใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ถึงแม้ว่าเงินทุนจะยังไม่เพียงพอ

บริษัท Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ ร่วมกับ GenZero บริษัทด้านแพลตฟอร์มลงทุน, Standard Chartered บริษัทด้านธนาคาร และ Temasek บริษัทด้านการลงทุน เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจสีเขียวอาเซียนว่า มีเงินลงทุนสีเขียวมูลค่า 6,300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 230,000 ล้านบาท ไหลเข้าสู่ภูมิภาคนี้ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สิงคโปร์-มาเลย์ ผู้ชนะ ‘Green Data Center’

ในอาเซียน มาเลเซียและสิงคโปร์เป็นหนึ่งในรัฐบาลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีส่วนผลักดันการลงทุนขนาดใหญ่ไปยังศูนย์ข้อมูลสีเขียว ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล

เมื่อปีที่แล้ว มาเลเซียดึงดูดการลงทุนสีเขียวขนาดใหญ่กว่า 500 ล้านดอลลาร์ให้กับศูนย์ข้อมูลอย่างน้อยสองแห่ง เงินทุนสำหรับโครงการเหล่านี้ ช่วยให้มาเลเซียกลายเป็นประเทศที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของการลงทุนสีเขียวมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีในภูมิภาคนี้ โดยเพิ่มขึ้น 326% จากปี 2565

ในขณะเดียวกัน Singtel บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ได้รับสินเชื่อสีเขียวมูลค่า 535 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 401 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพศูนย์ข้อมูลทั้งหมด รวมถึงศูนย์ข้อมูลสีเขียวขนาด 58 เมกะวัตต์ที่กำลังสร้าง ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อปีที่แล้ว

อาเซียนไหลไปสู่เทรนด์ดาต้าเซ็นเตอร์สีเขียว

ตามรายงานระบุว่า ไม่เพียงพลังงานหมุนเวียนยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนสีเขียวในภูมิภาคนี้ในปี 2566 โครงการศูนย์ข้อมูลสีเขียวยังได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายในประเทศต่าง ๆ เช่น มาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งช่วยผลักดันให้มีการลงทุนเพิ่มมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ความต้องการศูนย์ข้อมูลที่พุ่งสูงขึ้นตามการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ข้อมูลจำนวนมากอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบ Generative กำลังนำไปสู่คำเตือนการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น

ตามรายงานเดือน ม.ค. ของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่า การใช้พลังงานของอุตสาหกรรม AI จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า ระหว่างปี 2566 ถึง 2569
แม้ว่าการลงทุนสีเขียวในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในเชิงบวก โดยมีจุดเด่นบางประการในการลงทุนศูนย์ข้อมูลสีเขียว

แต่อันที่จริงแล้ว ยังคงต้องการเงินทุนอีกมากเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศนี้ ซึ่งเงินลงทุนสะสมที่จำเป็นอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในภาคพลังงานและธรรมชาติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่กำหนดไว้ระดับชาติภายในปี 2573 อย่างไรก็ตาม แต่จนถึงปัจจุบัน มีการลงทุนเพียง 1.5%  ซึ่งหลายประเทศเสี่ยงต่อการผิดคำมั่นสัญญาตามที่ได้ประกาศไว้

นอกจากนี้ ในอาเซียน อินโดนีเซียได้รับเงินลงทุนจากภาคเอกชนในโครงการสีเขียวมากที่สุด รองลงมาคือฟิลิปปินส์ ขณะที่ สปป.ลาว มีอัตราการเพิ่มขึ้นของการลงทุนเป็นอันดับสองที่ 126% เนื่องจากการลงทุนจากต่างประเทศในโครงการพลังงานหมุนเวียน

อ้างอิง: cnbc