เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง

เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง

สัมผัสบรรยากาศการดำน้ำลงไปสำรวจซากเรือ ‘ไททานิก’ ผ่านประสบการณ์ของ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ที่เคยไปเยือนที่นั่นมาแล้วถึง 33 ครั้ง แถมยังเคยสำรวจจุดที่ลึกที่สุดของโลกอย่าง Mariana Trench มาแล้ว

 

  • 'เจมส์ คาเมรอน' เคยดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิกมาแล้ว 33 ครั้ง
  • การดำลงไปสำรวจซากเรือใต้ทะเลคือแรงบันดาลใจในการสร้างหนัง 'ไททานิก'
  • คาเมรอนเคยดำน้ำลงไปที่ Mariana Trench จุดที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดของโลกมาแล้ว
  • เขาเผยประสบการณ์ว่ารู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนถูกตัดขาดจากมนุษยชาติโดยสิ้นเชิง

 

 

ข่าวการสูญหายของยานใต้น้ำ Titan จากบริษัท OceanGate ที่พาคน 5 ชีวิตลงไปชมซากเรือไททานิก ใต้ทะเลลึก 12,500 ฟุต ซึ่งล่าสุดพบเศษซากจากการระเบิดแล้ว กำลังเป็นข่าวดังไปทั่วโลก แต่ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้กำกับพันล้านที่อาจจะเป็นผู้ที่เคยดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิกมากจำนวนครั้งที่สุดในโลก กลับไม่เคยออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านสื่อเลย

 

ทำให้หลายคนไม่ทราบว่า เจมส์ คาเมรอน นั้นหลงใหลการสำรวจโลกใต้น้ำเป็นชีวิตจิตใจ และเคยลงไปสำรวจใต้ทะเลลึกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงการดำลงไปเพียงคนเดียวเพื่อสำรวจจุดลึกที่สุดของโลกที่เรียกว่า Mariana Trench ที่ระดับความลึก 35,787 ฟุต ด้วยยาน Deepsea Challenger ที่มีน้ำหนัก 12 ตัน

 

เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง

Credit : National Geographic

 

แม้แต่การทำหนังพันล้านอย่าง Avatar และ Titanic นั้นก็เป็นการทำขึ้นเพื่อตอบสนองความชอบในเรื่องดังกล่าวของเขานั่นเอง ซึ่งสำหรับเรือสำราญในตำนานอย่าง ไททานิก นั้น คาเมรอนเคยดำลงไปสำรวจซากของมันมาแล้วมากถึง 33 ครั้ง แล้วผู้กำกับคนดังเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำดิ่งลงไปในจุดที่ลึกที่สุดของโลกเอาไว้อย่างไรบ้าง เราไปย้อนดูกัน

 

สร้างหนัง ‘Titanic’ เพราะอยากดำลงไปสำรวจซากเรือ

คาเมรอนให้สัมภาษณ์นิตยสาร Playboy เอาไว้เมื่อปี 2009 ว่าเรื่องราวความรักบนเรือไททานิกไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างหนัง ไททานิก ขึ้นมาเมื่อปี 1997 หรอก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพราะเขาอยากดำลงไปสำรวจซากเรือที่เขาเรียกว่าเป็น “ยอดเขาเอฟเวอเรสต์ในหมู่เรือจม” ต่างหาก

 

“ไททานิกคือยอดเขาเอฟเวอเรนสต์ในหมู่ซากเรือจม ในฐานะนักดำน้ำ ผมต้องอยากไปดูมันอยู่แล้ว พอได้รู้มาว่ามีคนอื่นเคยดำลงไปที่เรือไททานิกเพื่อทำหนัง IMAX มาก่อน ผมก็เลยพูดว่า “ผมจะสร้างหนังฮอลลีวู้ดเพื่อหาเงินมาสำรวจแล้วก็ทำแบบเดียวกัน” ผมรักการได้ลิ้มรสมันเป็นครั้งแรกมาก แล้วผมก็ต้องการมากขึ้นอีก”

 

การทำหนังและการสำรวจใต้ทะเลคือเรื่องเดียวกัน

“ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเดียวกัน” คาเมรอนให้สัมภาษณ์ NPR เอาไว้เมื่อปี 2012 “ผมคิดว่ามันเป็นงานของนักสำรวจที่จะต้องไป และอยู่สุดขอบอันห่างไกลจากประสบการณ์ของมนุษย์ แล้วกลับมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราว”

 

หลงใหลมาตั้งแต่เด็ก

คาเมรอนบอกกับ National Geographic ว่าระหว่างที่เติบโตมาในออนทาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งอยู่ห่างจากมหาสมุทรหลายร้อยไมล์ เขาได้ดูการสำรวจใต้ทะเลอันน่าอัศจรรย์ของ ฌอง ฌากส์ คูโต นักดำน้ำชื่อดังชาวฝรั่งเศส, เคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Royal Ontario Museum ในโตรอนโต เห็นนิทรรศการถิ่นที่อยู่อาศัยใต้น้ำซึ่งออกแบบโดย Joe MacInnis ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เขาเขียนจดหมายไปหา MacInnis ตอนอายุ 14 แล้วที่เซอร์ไพรส์มากก็คือ Maclnnis นั้นเขียนจดหมายตอบกลับเขามาด้วย ซึ่งนั่นได้จุดประกายให้เขาสนใจโลกใต้น้ำขึ้นมา

 

เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง

 

เคยดำน้ำลึกกว่าจุดที่ซากไททานิกจม

หลังจากทำหนัง Titanic คาเมรอนก็ดำน้ำลงไปสำรวจทะเลลึกนับสิบครั้ง ในปี 2012 เขาลงไปสำรวจ Mariana Trench ซึ่งว่ากันว่าเป็นหนึ่งในจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรโลกที่ระดับต่ำลงไปเกือบ 7 ไมล์ เขาทำสำเร็จในยานใต้น้ำขนาด 24 ฟุตชื่อ Deepsea Challenger ที่เขามีส่วนร่วมในการออกแบบด้วย

 

แน่นอนว่าคาเมรอนพกกล้องติดตัวไปด้วยเพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับร่องน้ำดังกล่าวซึ่งอยู่แถบแปซิฟิกตะวันตก

 

“ผมออกตัวราวกับกระสุน เร็วที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ผิวน้ำห่างไกลออกไป มันแค่ลงไป ผมมองมาตรวัดระดับความลึก ผมอยู่ที่ระดับพันฟุตในเวลาแค่ 2 นาที แล้วก็สองพัน จากนั้นก็สามพัน”

 

จากนั้นไม่นานเขาก็บอกว่าตัวเองผ่านระดับความลึกของเรือไททานิกไปแล้ว ตามด้วย 27,000 ฟุต ซึ่งเขาบอกว่าเป็นระดับความลึกที่สุดเท่าที่เขาเคยดำมาก่อนหน้านี้ แต่นั่นก็ยังเหลืออีก 9,000 ฟุต เพื่อที่จะไปถึงพื้นมหาสมุทร โดยในระหว่างที่ดำดิ่งลงไป คาเมรอนบอกว่าเขาหวนนึกถึงเวลา 7 ปีที่ใช้ไปกับการทำให้ทริปนี้เกิดขึ้น และมีความสุขกับการอยู่เพียงลำพัง

 

“ผมอยู่ที่นี่ ในสถานที่ห่างไกลที่สุดบนดาวเคราะห์โลกซึ่งเอาเวลาทั้งหมด พลังงาน และเทคโนโลยีไปเพื่อที่จะมาถึงมัน ผมรู้สึกเหมือนคนที่โดดเดี่ยวที่สุดบนโลก ถูกตัดขาดออกจากมนุษยชาติโดยสิ้นเชิง ไม่มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือในสถานที่ที่ไม่เคยมีสายตาของมนุษย์เคยได้เห็นมาก่อน แล้วภรรยาของผมก็โทรมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่ารักมากครับ”

 

คาเมรอนพูดถึงการสำรวจใต้ทะเลลึกของเขากับรายการ 60 Minutes Australia ในปี 2018 ว่า

 

“มันไม่ใช่เรื่องอีโก้ของคนรวย แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า คุณมีเวลามากมายบนดาวเคราะห์ดวงนี้ มีชีวิตมากมาย มีลมหายใจมากมายในร่างกายคุณ คุณต้องทำอะไรบางอย่าง ถ้าคุณโชคดีพอที่จะหาเงินได้บ้าง มีต้นทุนอยู่บ้าง มีเม็ดเงินที่กำลังทำงานอยู่บ้าง แล้วทำไมถึงจะไม่นำมันมาใช้กับความฝันของคุณล่ะ”

 

เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง

Credit : National Geographic

เผยประสบการณ์ ‘เจมส์ คาเมรอน’ ผู้ดำสำรวจ ‘ไททานิก’ มาแล้ว 33 ครั้ง คาเมรอนนั่งในแบบจำลองห้องโดยสารของยานที่เขาใช้ในการสำรวจ Challenging the Deep / Credit : Saeed KHAN / AFP