‘คำเตือน’ จาก JPMorgan ตลาดหุ้นสหรัฐแออัดด้วยแมงเม่า เสี่ยงแตกได้ทุกเมื่อ

‘คำเตือน’ จาก JPMorgan ตลาดหุ้นสหรัฐแออัดด้วยแมงเม่า เสี่ยงแตกได้ทุกเมื่อ

ในความดีใจของนักลงทุนสหรัฐที่หุ้นเขียว ก็มีคำเตือนจาก “JPMorgan Chase” ว่า ดัชนีหุ้นสหรัฐเสี่ยงแตก จนอาจกลายเป็น “การปรับฐานใหญ่” ที่พาขาดทุนได้

ท่ามกลางตลาดหุ้นสหรัฐอย่างดัชนี S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ราว 5,260 จุด และเหล่านักลงทุนก็หวังว่า นี่อาจเป็นยุคกระทิงของตลาดหุ้นก็เป็นได้ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินแล้ว 

แต่ ดูบราฟโก ลาคอส บูแจ๊ส (Dubravko Lakos-Bujas) นักวิจัยหลักทรัพย์ของธนาคาร JPMorgan Chase กลับมองว่า ในสถานการณ์ถึงผู้คนจำนวนมากแห่มาเล่นหุ้นสหรัฐ และราคาก็ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือความเสี่ยงที่ดัชนีตลาดหุ้นอาจปรับฐานใหญ่กะทันหันได้ นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยง และกระจายการลงทุน

ความเสี่ยงนี้อาจเกิดขึ้นจากกองทุนเทขายนำมาก่อน เพื่อลดความเสี่ยงจากมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป ราคาที่ร่วงได้กระตุ้นให้เหล่ารายย่อยเทขายตามจนเป็น “การปรับฐานครั้งใหญ่”

ลาคอส บูแจ๊ส กล่าวต่อว่า กำไรหุ้นดีในอนาคต ทิศทางของเฟดที่อาจลดดอกเบี้ย รวมถึงโอกาสคว้าชัยเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ราคาหุ้นได้พุ่งขึ้นมารับข่าวเหล่านี้ไปแล้ว โดยเฉพาะราคาหุ้น Nvidia ที่ผลิตการ์ดจอประมวลผลสำหรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ทะยานรับการเติบโตในอนาคตไปมากแล้ว จึงทำให้เพดานขึ้นมีจำกัด แต่พื้นที่ลงกลับเปิดกว้างแทน

 

ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในช่วงวันท้ายๆ ของการปิดไตรมาสแรก ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2567 มานี้ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นไปแล้วประมาณ 10% ซึ่งเป็นการขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บวกไปถึง 23% ในปีที่ผ่านมา 

ดัชนี S&P 500 ยังมีแนวโน้มจะปิดบวกได้เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันด้วย เนื่องจากปัจจัยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ประกอบกับกระแสความสนใจใน AI และเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงเติบโตดี ท่ามกลางแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ 
 



อ้างอิง: bloomberg