อดีต รมว.คลัง เตือนกู้เงิน ตปท. เพื่อแจกเงิน ระวังแบกดอกเบี้ยแพง 2 เท่า

อดีต รมว.คลัง เตือนกู้เงิน ตปท. เพื่อแจกเงิน ระวังแบกดอกเบี้ยแพง 2 เท่า

'กรณ์' อดีต รมว.คลัง เตือนกู้เงิน ตปท. ในรอบ 25 ปีหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ระวังแบกดอกเบี้ย แพงกว่า 2 เท่า เพื่อแจกเงินประชานิยม ไม่ดีแน่

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) โพสต์เฟซบุ๊กเตือนรัฐบาลเรื่องการกู้เงินต่างประเทศ โดยระบุว่า เมื่อใครเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลัง ก็จะมีเจ้าหน้าที่การตลาดของวาณิชธนกิจจากต่างประเทศ เช่น JPMorgan Goldman Sachs หรือ UBS ขอคิวเข้าพบและหนึ่งบริการที่เขาจะพยายามเสนอขายคือ "การออกพันธบัตรดอลลาร์" พูดให้คนไทยเข้าใจง่ายๆคือ *เสนอให้รัฐบาลกู้เงินต่างประเทศนั่นเอง*

ซึ่งวันนี้ผมเห็นรัฐบาลออกมาแสดงเจตจำนงจะออกพันธบัตรกู้เงินสกุลดอลลาร์ พร้อมคำอธิบายว่าเพื่อเป็นการ "เปิดตลาด" และเพื่อสร้างราคาอ้างอิง (benchmark) – นั่นคือคำอธิบายที่พนักงานมาร์เก็ตติ้งธนาคารมักจะใช้ในการขายบริการนี้ ดังนั้น ผมคาดว่าครั้งนี้ก็ไม่ต่าง

อดีต รมว.คลัง เตือนกู้เงิน ตปท. เพื่อแจกเงิน ระวังแบกดอกเบี้ยแพง 2 เท่า

แต่ก่อนที่รัฐบาลจะคล้อยตาม ผมขอให้ไตร่ตรองให้ดีครับ เพราะจังหวะเวลานี้ ต้องขอบอกว่าไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมเลยที่ไทยเราจะออกไปกู้เงินต่างประเทศในลักษณะแบบนี้

หากเป็นสองปีก่อน หรือแม้แต่ปีที่แล้ว ในช่วงก่อนที่ดอกเบี้ยจะขึ้น และในช่วงที่สภาพคล่องมีล้นเหลือยังพอว่า…

แต่วันนี้หากรัฐบาลไทยออกพันธบัตรกู้เงินสกุลดอลลาร์ น่าจะต้องมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยรัฐบาลอเมริกาอยู่ประมาณ 1% คือเท่ากับเราต้องจ่ายดอกเบี้ย 6% ขึ้นไป พร้อมกับการรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (เทียบกับการกู้เงินบาทโดยรัฐบาลในอัตราดอกเบี้ย 3.3% – แพงกว่ากันประมาณ 2 เท่า)

ช่วงนี้ตลาดพันธบัตรผันผวนสูง และต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลไทยไม่ได้กู้เงินต่างประเทศแบบนี้มาตั้งแต่ยุควิกฤตต้มยำกุ้ง !

ดังนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อน เราต้องออกไปเปิดตัวในจังหวะที่ดี ทั้งในแง่สภาวะตลาดและในแง่ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของเรา

ยิ่งถ้ามีการโยงว่า "รัฐบาลไทยออกพันธบัตรกู้เงินต่างประเทศครั้งแรกในรอบ 25 ปี เพื่อนำไปแจกเงินโครงการประชานิยม" อันนี้ไม่ดีแน่นอน!