7 เดือน บนเก้าอี้ "รัฐมนตรีว่าพาณิชย์ " ของ ”ภูมิธรรม เวชยชัย”

7 เดือน บนเก้าอี้ "รัฐมนตรีว่าพาณิชย์ " ของ ”ภูมิธรรม เวชยชัย”

พิสูจน์ผลงาน “ภูมิธรรม เวชยชัย ” 7 เดือน เดินหน้าขับเคลื่อนตามนโยบาย 7 ข้อ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เร่งรัดการส่งออก ผลักดันซอฟพาวเวอร์ ภูมิใจดันซีรีส์วาย ซีรี่ย์ยูริ ชูสินค้าและบริการไทยสูเวทีโลก

ผ่านมา 7 เดือนภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ก็เกิดกระแสข่าวหนาหูว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเร็วๆนี้ ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรีที่ถูกปรับออกและรัฐมนตรีหน้าใหม่มาแทน หรือแม้กระทั่งการปรับเปลี่ยนโยกย้ายเก้าอี้ในกระทรวงที่การทำงานไม่เข้าตา

เมื่อโฟกัสมา กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ  เจ้ากระทรวงคือ “นายภูมิธรรม เวชยชัย”

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คนใกล้ชิด “นายใหญ่”ก็ไม่วายมีชื่อถูกย้ายไปนั่งเก้าอี้กระทรวงสาธารณสุข  ซึ่ง“เจ้าตัว”เมื่อถูกว่าจะมีการปรับครม.และจะถูกโยกย้ายไปนั่งคุมกระทรวงอื่น ยังคงยืนยันว่าจะขอคุมกระทรวงพาณิชย์และไม่ย้ายไปไหน ที่ผ่านมาก็ทำงานเข้าขากับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์

เมื่อเข้ามาบริหารงานก็ได้ประกาศนโยบาย 7  ข้อพื่อขับเคลื่อนงานพาณิชย์ โดยกำหนดเป้าเป็น 3 ระยะ 15 เป้าหมาย  ประกอบด้วย 

1.นโยบาย “ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” เน้นการรดน้ำที่รากดูแลคนตัวเล็ก

2.บริหารให้เกิดความสมดุล ระหว่างประชาชนผู้บริโภค เกษตรกรผู้ผลิต และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ

3.การทำงานเชิงรุกและบูรณาการการทำงานร่วมกัน ของพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์

4.แก้ไขข้อจำกัดของกฎหมาย

5.ร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Digital wallet ให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ

6.เร่งขยับตัวเลขการส่งออก เปลี่ยนจากติดลบให้เป็นบวก

7.ผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA รวมทั้งการปรับตัวเพื่อรองรับ และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในมาตรฐานความยั่งยืนที่เป็นกรอบกติกาใหม่ของโลก

 

7 เดือน บนเก้าอี้ \"รัฐมนตรีว่าพาณิชย์ \" ของ ”ภูมิธรรม เวชยชัย”

เพื่อให้การทำงานเดินหน้าตามนโยบาย นายภูมิธรรมได้ตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายเชิงรุกกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานพาณิชย์แบบเป็นทีม พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการอีก 9 ชุด เจาะลึกในแต่ละเรื่องทั้งช่วย SMEs ค้าขายไทย-จีน-อาเซียน ดันซอฟต์ เพาเวอร์ ขับเคลื่อนโลจิสติกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พัฒนากฎหมาย พัฒนาการค้ารับกติกาใหม่ พัฒนาเกษตรกร และสร้างการรับรู้

นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายเชิงรุกกระทรวงพาณิชย์ โดยมีเจ้าตัวเป็นประธาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเป็นเลขานุการและได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ อีก 9 ชุด 

ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา  ผลงานที่มีความคืบหน้าพอเห็นอยู่ คือ การดูแลปัญหาค่าครองชีพของประชาชน  ซึ่งได้มีการดูแลราคาสินค้าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 3 ฝ่าย คือ ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้บริโภค โดยคงเดินหน้าโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ที่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค จัดโปรโมชั่น เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน ลดค่าครองชีพ จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ผ่าน 5 กิจกรรมหลักทั่วประเทศ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังคงราคาดีต่อเนื่องจากความต้องการของตลาด โดยเฉพาะพืชหลักอย่าง “ข้าว-มันสำปะหลัง-ข้าวโพด-ปาล์มน้ำมัน-ผลไม้” ทำให้เรื่องนี้ไม่ค่อยมีปัญหามาก

 

ขณะที่งานหลัก คือ การผลักดันการส่งออก โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็ยังคงร่วมมือกับภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการส่งออกของไทยภายใต้ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก  จัดทำแผนเร่งรัดการส่งออกปี 67 โดยนายภูมิธรรม ก็เดินสายไปกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้ากับหลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ล่าสุด  ได้มีการลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–ศรีลังกา เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2567 โดยความตกลงดังกล่าว นับเป็น FTA ฉบับที่ 15 ของไทย และฉบับแรกภายใต้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ทำให้ปัจจุบันไทยมี FTA รวม 15 ฉบับ กับ 19 ประเทศ และยังคงเดินหน้าเจรจาFTA อีกหลายประเทศเพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้า สร้างกลไกพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์และทีมไทยแลนด์ ร่วมมือกันขยายตลาดไปต่างประเทศรองรับนโยบายทีมไทยแลนด์ของรัฐบาล

ด้านการผลัดดันซอฟพาวเวอร์ ผ่านอาหารไทย ภาพยนตร์/เกม การท่องเที่ยวคุณภาพสูง หนังสือ แฟชั่น งานออกแบบ และการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไทย โดยนายภูมิธรรม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเดินหน้าผลักดันซอฟพาวเวอร์เต็มที่ ซึ่งผลงานที่สร้างความฮือฮามากที่สุด คือ การเปิดตัว โปรเจกต์ยักษ์ รับปี 2567ส่งเสริมและยกระดับสินค้าไทยสู่ตลาดโลกไทยผ่านซีรีส์วาย หรือ Boys Love ดึง “มาย–ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และอาโป–ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” สองนักแสดงซีรีส์วายชื่อดังของไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดต่าง ๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมโปรเจกต์การตลาดครั้งนี้ผ่านซีรีส์เรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า “ชาย” (Shine)และวางโปรเจ็กต์เปิดตัวสองนักแสดงสาวจากซีรีส์แนวยูริ หรือ Girls Love เรียกว่าเป็นผลงานที่นายภูมิธรรมมีความพอใจมากที่สุด

ส่วนการทำงานด้านอื่นๆก็เป็นตามภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งภาพรวมผลงาน  7 เดือนในการบริหารงานกระทรวงพาณิชย์ของ“ภูมิธรรม”ก็มีความคืบหน้าในหลายๆเรื่อง แม้จะไม่โดดเด่นมากเพราะเป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออก อีกทั้งนายภูมิธรรมยังต้องรับผิดชอบหน่วยงานอื่นๆภายใต้ความรับผิดชอบในตำแหน่ง”รองนายกรัฐมนตรี “นอกเหนือจากงานที่นายกฯ”ได้มอบหมายเป็นพิเศษ ส่งผลให้ไม่มีเวลาบริหารงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ

อย่างไรก็ตามห้วงเวลา 7 เดือนก็พอเห็นผลงานบ้าง  หากจะให้คะแนนก็ถือได้ว่า สอบผ่าน  และหากว่าจะมีการปรับครม.ก็ไม่ใช่เป็นเพราะไม่มีผลงาน ซึ่งคงต้องจับว่า”ภูมิธรรม”จะยังคงนั่งเก้าอี้”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์”ต่อหรือไม่