เปิดแผน ‘อำพลฟูดส์’ ปี 67 ชูนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ วางโรดแมปสู่ยั่งยืน

ผสมผสานด้วยการนำเทคโนโลยีและเอไอ มาเสริมจุดแข็ง ทรานฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ร่วมด้วย การวางโรดแมปไปสู่ความยั่งยืนในปี 2050 เพื่อนำพาองค์กรขยายตัวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมรับมือความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ สถานการณ์เรื่องกำลังซื้อ และภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงความผันผวนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี 

“เกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร” กรรมการผู้จัดการ กลุ่มอำพลฟูดส์ ฉายภาพธุรกิจของอำพลฟูดส์ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 37 ภายในงาน “AMPOLFOOD Business Direction 2024 “FOOD MADE GOOD อาหารที่ดี เพื่อวันที่ดีกว่า” บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2567 โดยมีแรงหนุนจากธุรกิจอาหารสามารถขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ตามการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตดี ส่งผลทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งการโรงแรมและร้านอาหาร ธุรกิจให้บริการแบบจัดเลี้ยงหรือ แคทเทอริงเติบโตตาม จึงเป็นผลบวกต่อภาพรวมธุรกิจอาหารและกลุ่มอำพลฟูดส์ในปีนี้

แผนการขยายธุรกิจในปี 2567 มุ่งทั้งสองแกนธุรกิจหลักทั้ง 1. กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง ทั้งแบรนด์กะทิชาวเกาะ ผลิตภัณฑ์น้ำแกงพร้อมปรุง รอยไทย และเครื่องดื่ม วี-ฟิท และ กู๊ดไรฟ์ (GOOD LIFE) เครื่องปรุงรสเพื่อสุขภาพ เป็นต้น  2. การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า หรือดิสทริบิวเตอร์ ร่วมเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำสินค้ามาขยายตลาด ได้ทำต่อเนื่องมาร่วม 5 ปีแล้ว และมีแบรนด์สินค้าภายใต้การดูแลกว่า 20 แบรนด์ 

ไฮไลต์สินค้ากลุ่มอาหาร มุ่งนำนวัตกรรมมาสร้างความแข็งแกร่ง วางแผนเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง ได้นำวัตถุดิบที่มีอยู่อย่างกากมะพร้าวมาต่อยอดด้วยการทำวิจัยกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงเป็นอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีคุณค่าอาหารสูง พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สู่ตลาดคนรักสุนัขและแมว ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ถือว่าสอดรับกับเทรนด์ Pet Humanization หรือ พฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่ได้มาแตกไลน์อาหารสัตว์เลี้ยงและมีแผนขยายสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มเติมในอนาคต 

กลุ่มอาหารเพื่อผู้บริโภค มุ่งขยายกลุ่มสินค้าอาหารใหม่ ภายใต้แนวคิดหลัก “สุขภาพดีทุกความอร่อย” มีแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาเปิดตลาดได้แก่ “มังกรสมบูรณ์” ได้คัดสรรวัตถุดิบธรรมชาติจากตำราอาหารจีนโบราณสู่ซอสปรุงรสคุณภาพ และวางเป็นแบรนด์เรือธง อีกทั้งจะขยายตลาดกลุ่มซอสสำหรับปรุงรส ทั้งซอสผัดกะเพรา ซอสกะปิ เป็นต้น เพื่อร่วมส่งต่ออาหารไทย สามารถทำได้อย่างสะดวก และอร่อย เรียกว่าเป็นการส่งมอบซอฟต์พาวเวอร์อาหารไปทั่วโลก  

 

 

ดร.เกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ กลุ่มอำพลฟูดส์

อีกเรือธงสินค้ากลุ่มของหวาน ได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง ไอศกรีมมะพร้าว รังสรรค์น้ำมะพร้าวสู่ไอศกรีมแท่งเมื่อนำไปแช่ตู้เย็น ต่อมา พุดดิ้ง โภชนาการ ตรา Nutri-Care นำมาจากผลผลิตทางการเกษตร สู่อาหารเสริมโภชนาการสำหรับผู้มีปัญหาด้านการเคี้ยวกลืนโดยเฉพาะ รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นความร่วมมือ ระหว่าง สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อก อีกทั้งมีกลุ่มเครื่องดื่ม ชานมไข่มุก สำเร็จรูป กำหนดราคาแก้วละ 25 บาท มีแผนนำไปเจาะตลาดร้านโชห่วยทั่วประเทศกว่า 3 แสนร้านค้า 

อีกพอร์ตของธุรกิจกับ การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าเอสเอ็มอี ซึ่งมีพันธมิตรใหม่เปิดตัวสินค้าในเบื้องต้นรวมประมาณ 4-5 ราย อาทิ ถั่วลิสงอบกรอบ ตราเจดีย์คู่ ,เมล็ดทานตะวันอบสมุนไพร ตราจังโก้ โดย บริษัท โมเดอร์น ฟู้ด อินดัสตรี้ จำกัด ,เจลลี่ เชค กลิ่นผลไม้ ตรา คาเม้ะ คาเม้ะ โดย บริษัท โชติอัครสุชิน จำกัด ,ปลากระป๋อง ตรา หยกสยาม โดย บริษัท อาร์.ซี. มารีนไทย จำกัด และ น้ำปลา ตรา หน่อไม้ โดย บริษัท คู่บ้าน คู่ครัว จำกัด เป็นต้น โดยแต่ละแบรนด์บริษัทได้มุ่งคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพเพื่อส่งมอบถึงมือผู้บริโภค 

นอกจากการรุกในประเทศแล้ว อีกตลาดที่บริษัทให้ความสำคัญกับการตลาดส่งออก โดยภาพรวมการส่งออกไปใน 65 ประเทศ มีแผนขยายตลาดในจีนและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่ผู้บริโภคต่างมีความชื่นชอบน้ำมะพร้าวและอาหารไทย สามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในอนาคต ส่วนในประเทศไทยมีแผนขยายศูนย์กระจายสินค้ากว่า 10 ศูนย์ จากในปัจจุบันมีอยู่ 80 ศูนย์ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ “Good Life for You” เตรียมยกระดับบริการที่ดีขึ้นด้วย Voice Bot จากที่ผ่านมาสร้างการเติบโตกว่า 30% ส่วนงบลงทุนของบริษัทในปีนี้วางไว้ราว 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2567 จะทะยานแตะระดับ 4,200 ล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน สัดส่วนรายได้มาจากสินค้าของบริษัทในสัดส่วน 60% และการเป็นตัวแทนจำหน่าย 40% ประเมินว่าภายในสองปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จะมาจากยอดขายของบริษัท 50% และการเป็นตัวแทนจำหน่าย 50% 

ดร.กฤษฎา โสภา ผู้อำนวยการส่วนงานการตลาด และสารสนเทศ กลุ่มอำพลฟูดส์

รีแบรนด์ดิ้งอำพลฟูดส์ สู่ไอคอนธุรกิจใหม่ 

“กฤษฎา โสภา” ผู้อำนวยการส่วนงานการตลาด และสารสนเทศ กลุ่มอำพลฟูดส์ กล่าวว่า อำพลฟูดส์ ได้มีการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Rebranding) ครั้งใหญ่ในรอบร่วม 37 ปี เพื่อตอกย้ำบุคลิกทันสมัย ความพร้อมก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ และการเดินหน้าสู่โกลบอล แต่คงไว้ด้วยเอกลักษณ์ความน่าเชื่อถือในแบบอำพลฟูดส์ ด้วยฝีมือของนักออกแบบชาวไทย “IHAPSTUDIO” ซึ่งมีฟอนต์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ของอำพลฟูดส์โดยเฉพาะ รวมด้วยสีของตัวอักษรใหม่ แต่ละสีมีความหมายต่างกันทั้ง สีเขียว สื่อถึง โภชนาการ สีฟ้า ความยั่งยืน และ สีแดง การทำสิ่งใหม่ โดยเชื่อมั่นว่าจะทำให้ผู้บริโภคสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงที่ร่วมสมัย และเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น ผ่านแนวคิด “AMPOLFOOD Healthy Teste สุขภาพดี ทุกความอร่อย” ที่อำพลฟูดส์ยึดถือมาตลอด 

แนวทางการเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการทรานฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล มีทั้งขยายสู่การร่วมลงทุน (Joint Venture) กับ บริษัท กานดา ดิจิทัล เพื่อให้บริการ Voice Bot ภายใต้ชื่อ “Magnita” ได้ใช้เทคโนโลยีชั้นนำด้าน AI (Artificial Intelligence) มาเชื่อมต่อ คอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การนำเสนอ ไปจนถึงการโต้ตอบ และการปิดการขายได้ คาดว่าจะเริ่มให้บริการในไตรมาสสามนี้ เพื่อเสริมการบริการที่ดีสุดแก่ลูกค้า มีความรวดเร็วมากขึ้น และรองรับการให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจากการเสริมเทคโนโลยีแล้ว อีกสิ่งที่บริษัทมุ่งเน้นคือ การสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดและความบันเทิงให้แก่ลูกค้าสมาชิก ผ่านโปรแกรม AMPOLFOOD Family โดยมีแผนร่วมมือกับ อาร์เอส จัดคอนเสิร์ตร่วมส่งความสุขให้แก่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเตรียมร่วมจัดคอนเสิร์ตการกุศล “The Magic Moment ตอน The Power of Love เพลงรัก พลังรัก” ร่วมกับ เทพผดุงพรมะพร้าว และศิริราช นำรายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสร้างอาคารศูนย์บริรักษ์ ศิริราช (Siriraj Hospice) และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เพื่อปรับปรุงห้องผ่าตัดให้ทันสมัยและก่อสร้างอาคารผู้ป่วยในหลังที่สอง รวมถึงขยายขนาดบริการเป็น 400 เตียง

อีกบทบาทการร่วมสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่อสังคม และผู้ประกอบการไทย ได้วางแผนต่อยอดเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านหลักสูตร “FoodWorks” เตรียมจัดเป็นรุ่นที่สองภายในปีนี้ ร่วมกับ คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หลังจากการเปิด หลักสูตร “FoodWorks” ขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับจากผู้ประกอบการรายย่อยในอุตสาหกรรมกว่า 50 ราย โดยหลักสูตรนี้ทำให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมอาหาร และบริหารจัดการองค์กรด้วยทักษะที่สูงขึ้น ไปจนถึงพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพตอบโจทย์ผู้บริโภค นอกจากนี้มีแผนจัดทำหลักสูตรส่งเสริมคนพิการมีอาชีพในการไลฟ์ขายสินค้า ร่วมสร้างรายได้ที่มั่นคง คาดว่าจะเริ่มช่วงไตรมาสสามนี้ 

ดร.กรณ์กณิศ แสงดี ผู้อำนวยการส่วนงานนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน กลุ่มอำพลฟูดส์

วางโรดแมปองค์กรแห่งความยั่งยืน 

“กรณ์กณิศ แสงดี” ผู้อำนวยการส่วนงานนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน กลุ่มอำพลฟูดส์ กล่าวถึง องค์กรได้วางวิสัยทัศน์ที่ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน พร้อมวางโรดแมปไปสู่ อำพลฟูดส์ Net Zero 2050 ด้วยพันธกิจระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ร่วมสร้างโลกที่น่าอยู่เพื่อทุกคน 

ทั้งนี้การมุ่งไปสู่ความยั่งยืนได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง และทำงานสอดรับกับการดูแลสิ่งแวดล้อมมาร่วมกว่า 20 ปีและกลายเป็น บริษัทกะทิสำเร็จรูปรายแรก ที่ได้รับรองเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) พร้อมกันนี้ ได้มุ่งร่วมใช้พลังงานทดแทน การร่วมอนุรักษ์น้ำ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แก่พนักงานให้ตระหนักในเรื่องนี้ เพื่อร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน ล่าสุด การร่วมมือกับ Nex Point ผู้ผลิตและจำหน่ายรถโดยสารเชิงพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ทดลองใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 100 % ร่วมขนส่งสินค้า เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ในภาคธุรกิจ 

จากแผนการปรับเปลี่ยนภายใน จะทำให้ในปี 2030 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 30% และการร่วมจัดการของเสียอย่างยั่งยืน (Zero waste management) ภายในปี 2030 เช่นกัน ผลักดันให้ในปี 2040 ก้าวเข้าสู่การเป็นความกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) และเดินหน้าสู่การลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 ทั้งหมดร่วมตอกย้ำ อำพลฟูดส์ องค์กรแห่งความยั่งยืน ที่มุ่งสู่เป็นเลิศด้านนวัตกรรมอาหารไทยสู่ตลาดโลก