กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ กลับมาสู่โหมดไซด์เวย์ ก่อนผลการประชุมเฟดกลางสัปดาห์

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ กลับมาสู่โหมดไซด์เวย์ ก่อนผลการประชุมเฟดกลางสัปดาห์

ตลาดน่าจะพักสร้างฐาน ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนของปัจจัยมหาภาคในต่างประเทศ ในสัปดาห์ที่แล้ว (22 – 26 เมษายน) ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามมุมมองรายสัปดาห์ของเรา

เพราะนักลงทุนตอบรับในเชิงบวกกับ i) ความเสี่ยงที่อิสราเอล และ อิหร่านจะใช้กำลังทหารเข้าปะทะกันลดลงไปอย่างมาก ii) แนวโน้มของกลุ่มธนาคารไทยค่อนข้างแข็งแกร่งหลังประกาศงบ 1Q67 และ iii) ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวของไทยยยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน การปรับความคาดหมายเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐของนักลงทุนยังคงทำให้ตลาดผันผวนมาก โดยในปัจจุบัน ตลาดการเงินคาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเพียงหนึ่งครั้งในช่วงปลายปี 2567 เนื่องจาก
เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดี และ อัตราเงินเฟ้อยังไม่ยอมลงง่าย ๆ

สำหรับในสัปดาห์นี้ (29 เมษายน – 3 พฤษภาคม) เราคาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะยังไม่ขยับมากนักหลังผลการประชุม FOMC และ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของเรามองว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง และ ช่วง low season ของค่าเงินบาทในช่วงที่มีการขึ้น XD และ เป็นฤดูของการส่งเงินกลับประเทศ น่าจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีกในระยะสั้น ซึ่งจะจำกัด upside ของตลาด ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยซึ่งมีกำหนดจะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ได้แก่ i) รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการ digital wallet และ ii) ความคืบหน้าจากคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) เกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน ซึ่งคาดว่าจะมีผลในเดือนตุลาคมปีนี้

 

 

ติดตามผลการประชุม FOMC, ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในเดือนเมษายน และ นโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และ ตลาดการเงินของรัฐมนตรีคลังไทยคนใหม่

ปัจจัยต่างประเทศ: ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคสหรัฐจะยังคงมีอิทธิพลต่อภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนต้องติดตาม i) ผลการประชุม FOMC วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงแม้ว่าจะไม่มีการประกาศกราฟ dot-plot และ ประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ แต่ตลาดน่าจะติดตามถ้อยแถลงของนาย Powell ประธาน Fed อย่างใกล้ชิด ii) ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในเดือนเมษายน อย่างเช่น ดัชนี ISM ภาคการผลิต (1 พฤษภาคม) และ รายานการจ้างงานรายเดือน (3 พฤษภาคม) ซึ่งหากตัวเลขออกมาแข็งแกร่งเกินคาดก็อาจจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ฯ และ อัตราผลตอบแทนสหรัฐขยับสูงขึ้นอีก

ปัจจัยในประเทศ: ปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ i) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมีนาคมของ ธปท. ซึ่งจะเป็นตัวเลขชุดสุดท้ายที่จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มอัตราการขยายตัวของ GDP ใน 1Q67 ของไทย ii) ทิศทางนโยบายเศรษฐกิจ และ ตลาดการเงินของคุณพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ นอกจากนี้ คณะกรรมการ digital wallet ยังมีกำหนดประชุมในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ

 

 

ตลาดมี downside จำกัด โดยเราเห็นโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นในกลุ่มธนาคาร, ท่องเที่ยว และ หุ้นที่ผลประกอบการ 1Q67 มีแนวโน้มจะแข็งแกร่ง

สำหรับคำแนะนำในระยะสั้น เราได้ถอนหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และ รับเหมาก่อสร้างออกจากรายการหุ้นเด่นที่แนะนำ เนื่องจาก ราคาน้ำมัน และ GRM ลดลง ในขณะที่เราเป็นห่วงเกี่ยวกับกรณีที่อาจมีการปรับขึ้นค่าแรง ทั้งนี้ เราชอบ i) กลุ่มธนาคาร ซึ่งผลประกอบการมีคุณภาพดีขึ้นใน 1Q67 อย่างเช่น KBANK* และ KTB* ii) กลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งยังคงได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจีนในช่วงนี้ (AAV*,AOT* และ SHR) และ iii) หุ้นกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งใน 1Q67 อย่างเช่น OSP* และ ITC*