เครือ BDMS สร้างคุณค่าธุรกิจเฮลธ์แคร์ นำพาประโยชน์สู่ชุมชน สังคม และองค์กรยั่งยืน

ธุรกิจเฮลธ์แคร์ ของประเทศไทย เป็นที่ยอมรับและจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากลและติด 1 ใน 5 ของโลก โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนไทย ปัจจุบันเป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้านานาชาติ ในแต่ละปีมีการจองเที่ยวบินเพื่อเดินทางมารับบริการรักษาในไทยจำนวนมาก ด้วยความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการรักษาที่เทียบเคียงกับมาตรฐานระดับสากล 

ที่มาของความสำเร็จนั้น เกิดจากความมุ่งมั่นการรักษาผู้ป่วยด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับสากลควบคู่การนำเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ชั้นนำของไทยที่ให้บริการด้านสุขภาพครบวงจร ซึ่งดำเนินงานมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ความมุ่งมั่นในการให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร ส่งผลให้ปัจจุบัน BDMS เป็นธุรกิจการดูแลสุขภาพขนาดใหญ่ในไทย โดยมีโรงพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 57 แห่ง

เดินหน้าสู่ความยั่งยืน

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานกลาง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า BDMS มุ่งมั่นให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพมาตรฐานองค์กร เพื่อพัฒนาให้ทัดเทียมระดับสากล โดยแนวทางการพัฒนาของ BDMS มีความสอดคล้องกับเทรนด์โลกยุคปัจจุบันเสมอ แต่จากกระแสการเปลี่ยนแปลงระดับโลกในปัจจุบัน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจทุกภาคส่วน รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาลและเฮลธ์แคร์ต่างต้องตระหนักถึงการปรับตัว เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ทันต่อความเปลี่ยนแปลง เดินหน้าไปสู่ทิศทางการเติบโต ภายใต้แนวคิด "การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน" ทำให้ปัจจุบัน BDMS ไม่เพียงมุ่งขยายการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่หันมาใส่ใจกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ที่กำลังเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนภาคธุรกิจในวันนี้และในอนาคต

"ในฐานะธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ การให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ความมั่นคง สุขอนามัย เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ และย้อนไปหลายสิบปีก่อน กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลแทบทุกแห่ง ต่างพากันมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลที่เป็นหลักประกันด้าน Patience Safety เพราะสิ่งสำคัญอันดับแรกคือคนไข้ที่มารับบริการต้องมีความปลอดภัย ไม่มีปัญหาจากการรักษาพยาบาล แต่ยุคนี้ แม้การดูแลผู้ป่วยจะเป็นภารกิจหลัก แต่เรายังดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน รวมทั้งความเป็นอยู่ของพนักงานในองค์กรเราด้วย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของ Sustainability หรือ ESG"

ด้วยเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทำให้ BDMS ให้ความสำคัญกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน หรือ ESG ซึ่งประกอบด้วยการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environment) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) ขณะเดียวกันยังมีความตั้งใจที่จะพัฒนาธุรกิจ บุคลากร และการให้บริการอยู่เสมอ เพื่อส่งมอบบริการทางการแพทย์และดูแลสุขภาพอันเป็นเลิศและได้มาตรฐานสากลแก่ผู้รับบริการ

รศ.นพ.สรนิต กล่าวต่อว่า แนวทางเหล่านี้เป็นวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) และ 12 เป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวของ BDMS ปี 2022-2050

"ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ที่เราวางกลยุทธ์สำคัญด้านความยั่งยืน ซึ่งจริงๆ เป็นงานเดิมที่เราทำประจำอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันเรามีทิศทางการดำเนินการที่มีความชัดเจนมากขึ้น ภารกิจหลักด้านการดูแลคนไข้เรายังทำอยู่ แต่การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ไปด้วยกัน"

มุ่งมั่นชัดเจนเพื่อความยั่งยืน

รศ.นพ.สรนิต กล่าวเสริมว่า Sustainability หรือความยั่งยืน ไม่ใช่เรื่องการแข่งขัน หรือเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน ซึ่ง BDMS ในฐานะผู้ให้บริการด้านธุรกิจสุขภาพครบวงจร มีนโยบายเรื่องความยั่งยืนอย่างชัดเจน และเป็นนโยบายที่ได้รับความสำคัญมาตั้งแต่ระดับฝ่ายบริหารของเครือที่กำหนดให้ความยั่งยืนเป็น Strategy หลักขององค์กร โดยเฉพาะด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม ทุกบริษัทในกลุ่มธุรกิจต่างถือปฏิบัติ "BDMS Earth Healthcare" ด้วยความท้าทายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อมุ่งสู่ สังคมคาร์บอนต่ำ

"หนึ่งในพันธกิจด้านความยั่งยืนสำคัญคือ BDMS ได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการดําเนินงานสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2050 โดยการส่งเสริมให้พนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสีย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการดําเนินธุรกิจและสนับสนุนการใช้ พลังงานหมุนเวียน อย่างต่อเนื่องตลอดห่วงโซ่อุปทาน ล่าสุด BDMS และธุรกิจในเครือ ยังยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนไปอีกขั้น ด้วยการกำหนดเกณฑ์ของ Green Healthcare เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการด้านความยั่งยืนสำหรับองค์กรโดยเฉพาะ ถือเป็นแนวทางเพื่อดูแลด้านการบริหารจัดการพลังงานอย่างเหมาะสม หนึ่งในนั้นคือมีการสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือก เป็นต้น"

Green ที่ไม่ได้หมายถึงแค่สีเขียวเท่านั้น

รศ.นพ.สรนิต กล่าวต่อไปด้วยว่า เมื่อพูดถึงคำว่า "กรีน" คนส่วนใหญ่อาจมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งแวดล้อม แต่สำหรับ BDMS เราไม่ได้หมายถึงสีเขียวเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง Sustainability หรือความยั่งยืน เพราะฉะนั้นโครงการ Green Healthcare จึงถูกครอบด้วยแนวทางความยั่งยืน ESG ทั้งสามด้าน

"ดังนั้น การกำหนดเกณฑ์ของ Green Healthcare ทั้งหมดกว่าร้อยคะแนน ยังครอบคลุมทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับกิจการที่ดีและมีจริยธรรมองค์กร ซึ่งเป็นการรวบรวมนำเกณฑ์การปฏิบัติที่เป็นสากลส่วนหนึ่งมาประยุกต์กับเกณฑ์ที่ทาง BDMS มีอยู่เดิม ทำให้เกณฑ์ดังกล่าวค่อนข้างจะมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับความเป็นจริงในการดำเนินการและสถานการณ์"

รศ.นพ.สรนิต กล่าวต่อไปอีกว่า ทางโรงพยาบาลในเครือ BDMS ยังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเก็บข้อมูลและติดตามเรื่องประหยัดพลังงาน บริหารจัดการขยะอย่างเหมาะสม เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ ไปจนถึงการกำจัดขยะครบวงจรทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นขยะทั่วไป ขยะติดเชื้อ รวมถึงขยะที่ถูกนำไปรีไซเคิล การนำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) มาใช้เป็นพลังงานทางเลือก ส่วนด้านสังคมและชุมชน BDMS ยังให้ความสำคัญใส่ใจกับชุมชนรอบข้าง มีการทำงานร่วมกับชุมชน และสังคมอย่างรับผิดชอบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม รวมถึงการใส่ใจดูแลบุคลากรหรือพนักงานของโรงพยาบาลในเครือทุกแห่ง ยังเป็นอีกหนึ่งพันธกิจที่ BDMS ไม่ทอดทิ้ง

"เราเปิดกว้างกับการรับเรื่องร้องเรียน ไม่เพียงแค่เฉพาะลูกค้าผู้ใช้บริการโรงพยาบาล แต่เรายังฟังคำร้องเรียนจากพนักงานทุกคนในองค์กร เพื่อนำมาปรับปรุงให้เป็นองค์กรที่น่าอยู่สำหรับพนักงาน ภายใต้แนวคิด Happy Workplace รวมทั้งการใช้บริการบริษัทคู่ค้าหรือพันธมิตร BDMS ยังเลือกที่จะร่วมงานกับบริษัทที่มีแนวคิดเรื่องความยั่งยืนเหมือนกันในการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนการดูแลสังคม BDMS มองว่า อย่างน้อยที่สุดชุมชนรอบข้างองค์กรเราต้องดูแล เราเดินออกไปนอกรั้วดูแลชาวบ้าน ซึ่งสามารถเริ่มได้ทั้งรูปแบบง่ายๆ เช่น การบริจาคเงิน การให้ทุน แต่สำหรับ BDMS เราอยากให้ความยั่งยืนเป็นได้มากกว่านั้น เราจึงสร้างความร่วมมือระหว่างกันกับชุมชนผ่านโครงการต่างๆ อย่างเช่น เราเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ดังนั้นเราจึงส่งเสริมเรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้เรื่องสุขภาพกับประชาชน การอบรมให้ความรู้ด้านซีพีอาร์ ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน หรือการดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เกิดความสำเร็จออกดอกออกผลเป็นอย่างดี"

รศ.นพ.สรนิต ยังฝากข้อคิดด้วยว่า หลักการของ Sustainability สามารถใช้ได้ทุกองค์กรและใช้ได้ทุกที่ทั่วโลก แต่อาจมีการปรับให้เข้ากับบริบทของแต่ละแห่งหรือแต่ละอุตสาหกรรมตามความเหมาะสมได้ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับประเด็นระดับโลกและคำนึงถึงประเด็นระดับท้องถิ่นตามแนวปฏิบัติการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้โลกนี้สวยงามถึงลูกและหลาน BDMS อยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องความยั่งยืน ซึ่ง BDMS ยินดีจะแลกเปลี่ยนความรู้ด้านความยั่งยืนกับทุกท่าน

สเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมา และลาว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า การร่วมกันต่อสู้กับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างความยั่งยืน นับเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจในปัจจุบัน ต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับ ทุกองค์กร ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ จะเป็นองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสถาบันต่างๆ ก็สามารถมาร่วมแบ่งปันเรื่องราวด้านความยั่งยืนร่วมกัน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสและการปฏิบัติไปสู่ความยั่งยืนของโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"เราได้รับการตอบรับที่ดีจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในการมาร่วมเล่าถึงเป้าหมายด้านความยั่นยืน และวิธีดำเนินการขององค์กรนั้นๆ ในโครงการ Green Heroes for Life ถือเป็นก้าวสำคัญที่แต่ละองค์กรมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และความเป็นผู้นำในการก้าวสู่องค์กรที่ยั่งยืน มาร่วมเป็น Green Heroes for Life ด้วยกัน เพื่อสร้างองค์กรที่ยั่งยืน และเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero ในอนาคตร่วมกัน" 

สนใจเข้าร่วม คลิกที่นี่