คนในเครื่องแบบ ชีวิต...ดี๊ดี!

คนในเครื่องแบบ ชีวิต...ดี๊ดี!

อย่าเพิ่งเข้าใจผิด... “คนในเครื่องแบบ” ในที่นี้หมายถึง “ยาม” ครับ

ช่วงนี้ใครมีลูกมีหลานก็อยากให้ไปเป็นยาม เพราะมองเห็นแล้วว่า อาชีพยาม มีความมั่นคงสูงสุด ไม่ว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่สักแค่ไหนก็ยังมีเงินเดือนกิน หนำซ้ำยังมีตำแหน่งแห่งหนให้เติบโตมากมาย อย่าว่าแต่ยามปลายแถวเลย ขนาดยามระดับบิ๊ก แบบว่า นายพลยาม ก็ยังมีจำนวนมากที่สุดในโลก มากจนต้องนอนอยู่บ้าน เพราะไม่มีงานให้ทำ

ก่อนจะเป็นยามได้ ต้องผ่านการฝึกจาก โรงเรียนยาม โรงเรียนนี้ดีครับ มีระบบรุ่นน้องรุ่นพี่ มีระบบซ่อม ลงโทษ เพื่อให้ทุกคนอยู่ในระเบียบวินัย ถ้าพลาดพลั้ง ซ่อมจนตาย ก็จะมีหัวหน้ายามคอยปกป้อง บอกว่าเป็นอุบัติเหตุบ้าง ปัญหาสุขภาพบ้าง หรือไม่ก็บอกว่า...อ่อนแอก็แพ้ไป ไม่เหมาะกับอาชีพอันทรงเกียรตินี้หรอก

จบจาก โรงเรียนยาม ถ้าชีวิตทำบุญมาดี มีวาสนา ได้เป็นใหญ่ขึ้นมา ก็ฝากลูก ดึงหลาน อัญเชิญเมียเข้ามาเป็น คนในเครื่องแบบ ได้ง่ายๆ ด้วยวิธีพิเศษ ไม่ต้องไปผ่านการสอบการฝึกจาก โรงเรียนยาม เหมือนลูกชาวบ้าน ลูกชาวนาให้เสียเวล่ำเวลา

พวกระดับ ผู้บัญชาการยาม มีชีวิตน่าอิจฉา มีแหวนเพชรกันคนละหลายๆ วง วงละหลายๆ กะรัต สนนราคาหลักล้านบาท มีนาฬิกาหรูเรือนละกว่าสิบล้าน ไม่มีใครกล้าตรวจสอบ เพราะมากบารมี ใครถามก็บอกว่ายืมเพื่อนมา

วันดีคืนดีก็รวมตัวกันยึดอำนาจจาก คณะกรรมการหมู่บ้าน ที่ได้รับเลือกตั้งจากลูกบ้าน แล้วก็เข้ามาบริหารแทน ตั้งเงินเดือน เพิ่มตำแหน่งให้ตัวเองและพรรคพวก กินเงินหมู่บ้านกัน 2 ทาง 3 ทาง ปรีดิ์เปรมกันไป ลูกบ้านได้แต่มองตาปริบๆ ใครข้องใจไต่ถามอะไรก็ถูกด่า ถูกตะคอกกลับ

ยึดอำนาจจาก คณะกรรมการหมู่บ้าน ก็เขียนกฎระเบียบหมู่บ้านขึ้นมาเอง จากนั้นก็ลงสมัครเป็นกรรมการหมู่บ้านเสียเอง จะได้อยู่กันไปยาวๆ เงินหมู่บ้านก็เอาไปซื้อปืน ซื้อรถถัง ซื้อเรือดำน้ำ ซื้อจรวด โดยให้เหตุผลหรูๆ ว่าเพื่อเอามาปกป้องคุ้มครองลูกบ้านให้ปลอดภัย

อยากเป็นพวกเดียวกับท่านบ้างจัง เพราะชีวิต...ดี๊ดี!