อะไรทำให้กวดวิชากลายเป็นความจำเป็น

อะไรทำให้กวดวิชากลายเป็นความจำเป็น

ใครไปคุยเรื่องกวดวิชากับคุณตาคุณยายคงได้คำตอบคล้ายๆ กันว่าไปเล่าเรียนให้เหนื่อยกันทำไม ตั้งอกตั้งใจเรียนกับคุณครู

ที่โรงเรียนก็พอแล้ว เพราะสมัยคุณตาคุณยายนั้น กวดวิชามีไว้แค่กวดให้คนที่เรียนไม่ทันเพื่อนฝูงในห้องเรียนไปเติมเต็มให้ทันคนอื่น เป็นการเรียนพิเศษเพิ่มเติมจากที่เล่าเรียนในชั้นเรียนในสาระเดิมที่เคยได้เรียนมาแล้ว ถ้ายังไม่รู้เรื่องอีกก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่เป็นกองหนุนได้อีกแรงหนึ่ง เพราะที่คุณลูกกำลังเรียนกับที่คุณพ่อคุณแม่เคยเรียนนั้นเป็นสาระความรู้เดียวกัน ครอบครัวจึงเป็นสถาบันกวดวิชาประจำบ้านในสมัยคุณตาคุณยาย

สมัยคุณตาคุณยาย ครูอาจารย์ในโรงเรียนสอนหนังสือจริงๆ คือบอกเล่าให้ฟังให้เห็นว่าทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ ที่มีในวิชานั้นมีอะไรบ้าง เล่าสนุกบ้างน่าเบื่อบ้างแล้วแต่สไตล์ของแต่ละท่าน โดยมีกระดานดำและสารพัดสิ่งของในห้องเรียนเป็นเครื่องมือช่วยเล่าเรื่อง เล่าให้ฟังเสร็จก็ให้แบบฝึกหัดมาทดสอบความรู้ ใครไม่ค่อยรู้เรื่องก็ต้องทำการบ้านส่งมาใหม่ บางสาระก็ต้องเข้าห้องทดลองลงมือทำให้ครูอาจารย์ดูว่าทำถูกทำผิดอย่างไร ทดลองกันแล้วถูกดุบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ตำราหลายเล่มก็ต้องอาศัยตำราจากเมืองฝรั่ง เพราะบ้านเรายังไม่เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นพอจะเขียนตำรากันได้ การเล่าเรียนจากการบอกเล่าของครูอาจารย์ก็เป็นไปอย่างนี้ จนกระทั่งถึงวันที่คุณพ่อคุณแม่เป็นนักเรียน

วันดีคืนดี ก็มีผู้รู้มาบอกว่าบ้านเมืองที่ก้าวหน้าเขาเลิกใช้กระดานดำไปแล้ว เขาเลิกบอกเล่าไปแล้ว ลูกหลานเล่าเรียนตามหนทางที่เหมาะกับแต่ละคน จนมีคำว่าผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเกิดขึ้น เราอยากมีการเล่าเรียนที่แต่ละคนมีเส้นทางการเรียนที่เหมาะกับตนเอง เราไม่อยากเหมาเข่งให้ทุกคนเรียนเหมือนกันหมด ด้วยเจตนาที่ดีที่จะพาลูกหลานไปสู่ระดับโลกกับบ้านอื่นเมืองอื่นบ้าง ทำให้มีสถาบันนั่นสถาบันนี้เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนในหลากหลายสาขา มีการแต่งตำราใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย มีการแผนการสอนที่ล้ำสมัยให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเล่าเรียนให้ครูอาจารย์ทำตามแต่จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามการบอกเล่าทฤษฎีและแนวคิดในวิชาที่เล่าเรียน ถูกเปลี่ยนเป็นการเรียนรู้จากการทำสารพัดโครงการ

คำว่าใบงานกลายเป็นสิ่งที่ทั้งครูทั้งนักเรียนต้องทำกันทุกวิชา ในยุคเฟื่องฟูของใบงานนี่แหละที่บทบาทของการกวดวิชาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากยุคคุณตาคุณยาย คือเริ่มมีการกวดวิชาเพื่อบอกเล่าทฤษฎีและแนวคิดให้ผู้เรียน บอกเล่าด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายกว่าใบงานที่งอกงามอยู่ในโรงเรียน แม้แต่การทดลองต่างๆ ที่ใบงานกำหนดให้ทำ การกวดวิชาก็ยังตามมาอธิบายว่าที่ได้ผลเช่นนั้นเช่นนี้เป็นเพราะหลักการ ทฤษฎีหรือแนวคิดใด คุณครูกวดวิชากลายเป็นนักเล่าเรื่องที่แสนวิเศษ ในขณะที่ท่านอาจารย์ในโรงเรียนไม่ได้เล่าเรื่องได้เป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้เลย เพราะท่านทำตามแผนการสอนที่กำหนดไว้ให้ทำ

การกวดวิชาแยกเส้นทางกันชัดเจนระหว่างกลุ่มหนึ่งช่วยเติมเต็มสิ่งที่ได้เรียนมาแล้ว เน้นให้สอบเก่งขึ้น อีกกลุ่มหนึ่งบอกเล่าสิ่งที่ยังไม่ได้มีการบอกเล่าในโรงเรียน ใครที่เล่าเรียนจากใบงานในโรงเรียนไม่รู้เรื่องก็ต้องพึ่งพาการกวดวิชา ไม่ใช่แค่เพื่อให้สอบเรียนต่อได้ แต่ให้สอบผ่านในโรงเรียนด้วย การกวดวิชากลายเป็นความจำเป็นสำหรับแทบทุกคน เพราะไม่กวดวิชาก็ไม่รู้เรื่องสาระที่จะไปสอบในโรงเรียน บางคนก็กวดวิชานอกโรงเรียน บางคนก็เรียนพิเศษในโรงเรียนที่แจกใบงานนั่นเอง ตอนกลางวันแจกใบงาน ตอนเย็นก็เล่าเรื่องตามสไตล์ที่ตนเองถนัด เรียนพิเศษสามวิชาก็ได้เห็นได้ฟังสามสไตล์ ไม่เหมือนตอนกลางวันที่กี่วิชาก็สไตล์เดียวกันหมด

จนกระทั่งมาถึงสมัยคุณลูก การกวดวิชายิ่งมุ่งเน้นผู้เรียนอย่างชัดเจนมากกว่าการเรียนในโรงเรียน ผู้เรียนเลือกได้ว่าอยากได้สาระความรู้เรื่องใดจากผู้สอนสไตล์ใด อยากเรียนแบบสนุก หรือจริงจังก็เลือกได้ เลือกได้ว่าอยากเรียนในห้องเรียน หรืออยากเรียนคนเดียวหน้าจอคอมพิวเตอร์ อยากเรียนเวลาไหน ที่ไหนก็เลือกได้ การกวดวิชาใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการเล่าเรื่อง เรียนแล้วเหมือนดูรีแอลลิทีโชว์ หรือเหมือนกำลังเล่นเกมส์แต่ในโรงเรียน วิชานี้ต้องเรียนกับอาจารย์ท่านนี้เท่านั้น ต้องทำใบงานนี้อย่างนี้เท่านั้น ทำให้คุณพ่อคุณแม่วันนี้เป็นกองหนุนให้คุณลูกไม่ค่อยได้ เพราะทำไม่เหมือนที่ท่านอาจารย์ให้ทำเป็นอันว่าผิดไปหมด คุณลูกเลยต้องเพิ่งพาการกวดวิชาในลักษณะที่เป็นแกนหลักในการหาความรู้ ไม่ใช่การเติมเต็มให้สอบเข้าเรียนได้เพียงอย่างเดียว กวดวิชาวันนี้คือแหล่งบอกเล่าความรู้ที่ใช้สารพัดเทคนิคร่วมสมัยที่ตรงใจคนเรียน

มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแต่ก่อนนี้ก็ใช้วิธีเล่าเรื่อง แต่เล่าได้มากเรื่องขึ้นเพราะมีอินเทอร์เน็ตช่วยเล่าบางสาระไปบ้างแล้ว วันหนึ่งผู้บริหารไปดูงานเมืองฝรั่ง กลับมาก็สั่งตั้งหัวหน้าผู้บริหารด้านการเรียนรู้ สั่งเปลี่ยนแปลงการสอนขนานใหญ่ เลิกเล่าเรื่อง เลิกบรรยาย ทุกอย่างก็ Project Based ทั้งนั้น หรืออย่างอื่นก็ต้องตามสไตล์ท่านผู้บริหารเท่านั้น

วันนี้ถ้าใครไปเดินแถวๆ มหาวิทยาลัยนั้นจะพบสถาบันกวดวิชาเต็มไปหมด กวดวิชาที่เรียนในมหาวิทยาลัยนั้น รวมทั้งวิชาปีสี่ และวิชาปริญญาโท และนี่คือคำตอบว่าอะไรทำให้การกวดวิชากลายเป็นความจำเป็น ไม่กวดวิชาก็ไม่ได้ปริญญาจากมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนรู้อย่างก้าวหน้าล้ำสมัยนั้น