'ทาทา'เล็งผุดไฟแนนซ์ปลดล็อกแบงก์เข้มสินเชื่อ

พร้อมเดินหน้ารุกตลาดรถบรรทุกใหญ่ในไทย ไตรมาสแรกปีหน้า ขณะที่รถเก๋งยืนยัน ทาทา นาโน ไม่ขายในไทย จนกว่าจะพัฒนาเกียร์อัตโนมัติเสร็จ

ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ปัจจัยดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ปรับตัวลดลง ล่าสุดค่ายรถยนต์บางค่าย กำลังแก้ปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการจัดตั้งไฟแนนซ์เป็นของตัวเอง เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายรถยนต์

นายซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทาทา จากประเทศอินเดีย เปิดเผย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า สภาพตลาดรถยนต์ไทย ยังไม่ฟื้นตัวได้อย่างที่คาดการณ์ทำให้ต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ

ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการรถยนต์ต่างประเมินว่า ตลาดรถจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่ที่สุดก็ไม่มีสัญญาณที่แสดงว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะดีขึ้นมากนัก อีกปัจจัยหนึ่งคือเรื่องของสถาบันการเงินค่อนข้างเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเอ็นพีแอลที่มีมากกว่าที่คาดคิดไว้มาก

"การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดมาตรการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ เนื่องจากต้องการระมัดระวังผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคตประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถดถอย ผู้บริโภคก็ไม่มีเงินทำให้ต้องใช้การกู้ยืมในระบบ ขณะที่การปล่อยสินเชื่อปล่อยยาก ดังนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์จึงเจอผลกระทบสองด้านในเวลาเดียวกัน"

เมื่อกลางปีงบประมาณ ทาทา ประเมิน ยอดขายว่า เมื่อสิ้นปีงบประมาณ (มี.ค.2558) น่าจะทำยอดขายได้ 3,000 คัน จากปีที่แล้วทำได้ 2,400 คัน แต่จากปัจจัยลบทำให้ความสามารถของทาทาจะมียอดขายประมาณ 2,100 คัน ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว

นายซานเจย์ กล่าวว่า สิ่งที่ประคับประคองคือ การออกสินค้าใหม่ และการส่งเสริมการขายที่ต้องเพิ่มงบประมาณในเซลส์โปรโมชั่นให้ลูกค้าซื้อรถได้ง่ายขึ้น โดยล่าสุดบริษัทเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 คือ กระบะทาทา ซีนอน รีเฟรช (Tata Xenon Refresh) ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ใช้ระบบเกียร์แบบใหม่ เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานมากขึ้น ทั้งการตกแต่งภายนอก และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายใน

นายซานเจย์ กล่าวว่า ปีหน้าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับทาทาเพราะประการแรกทาทาจะแนะนำสินค้าใหม่เข้ามาจำนวนมาก ซึ่งต้องปรับตัวสินค้าให้เหมาะกับตลาดไทย ประการที่สอง สิ่งที่ต้องพยายามทำคือการพัฒนาเครือข่ายให้มีความสามารถให้บริการเป็นไปอย่างถูกต้องสำหรับสินค้าใหม่ที่เตรียมเข้ามาทำตลาดในอนาคต

"นอกเหนือจากการขยายเครือข่าย เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการกับลูกค้าของเราแล้ว เรากำลังปรับปรุงและพัฒนาให้ระบบการบริการหลังการขายมีความฉับไวมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสต็อกอะไหล่ให้มากขึ้น การสั่งอะไหล่ที่มีความรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้านำรถเข้ารับบริการและมีรถกลับไปใช้งานได้เร็วขึ้น"

ประการที่สามคือ อะไหล่ เมื่อมีสินค้าใหม่แนะนำแก่ผู้ใช้คนไทย ลูกค้าก็คาดหวังจากเมื่อบำรุงรักษาต้องมีอะไหล่ ต้องบริหารสต็อกและซัพพลายเชนให้ดี

ประการที่สี่สำคัญมาก คือเรื่องการสนับสนุนทางการเงิน ซึ่งทาทายังไม่มีไฟแนนซ์เป็นของตัวเอง สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทาทาต้องให้ข้อมูลกับบริษัทแม่ให้เห็นว่า สถานการณ์ที่สถาบันการเงินต่างๆ เข้มงวด นโยบายของธนาคารแห่งชาติเข้มงวด การที่จะยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทาทาต้องมีสถาบันการเงินอนุมัติ ทุกๆ เดือนที่โชว์รูม ทราฟฟิกลูกค้าเข้ามาที่โชว์รูมไม่น้อยแต่ไม่สามารถปล่อยรถได้

ปีหน้า เปิดตลาดรถบรรทุก

นายซานเจย์ กล่าวว่า ธุรกิจรถบรรทุก เป็นธุรกิจที่ตัวรถมูลค่าสูง ที่ผ่านมาทาทาแนะนำรถบรรทุกแต่ยังไม่ได้ผลักดันเต็มที่ แต่ในไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทมีแผนทำตลาดรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทาทากำลังพัฒนาศูนย์บริการให้เกิดขึ้นก่อนการขายโดยจะลงทุนเปิดศูนย์บริการก่อนอย่างน้อย 3-4 แห่ง

องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ดีมานด์ตกลงมาก แต่ขณะที่อุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ตกลงมากกว่า คือราว 50% ทำให้ไม่ต้องรีบทำตลาด

นอกกจากนี้ ปีหน้าคาดว่าความเป็นเออีซีค่อนข้างชัดเจนขึ้น และการที่รัฐบาลกระตุ้นการใช้งบประมาณเพื่อก่อสร้างโครงการต่างๆ จะช่วยให้ความต้องการรถบรรทุก ณ เวลานั้นสูงขึ้น ถ้าเปิดตัวรถบรรทุกอย่างเป็นทางการช่วงนั้นก็น่าจะเป็นผลบวก

"เรามองโอกาสในการขยายตลาดสำหรับมิกเซอร์ เพราะหากมีโครงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมระหว่างจีน ไทย สิงคโปร์ หรือลาว พม่า รถประเภทนี้ต้องการใช้งานในส่วนนี้มาก"

สำหรับรถบรรทุกของทาทาประกอบด้วยรุ่นต่างๆ คือ พริมา (TATA PRIMA) รถหัวลากของทาทา เป็นหัวลากแบบ 6 ล้อ (4x2) (จากทาทา อินเดีย) และหัวลากแบบ 10 ล้อ (6x4) จากแดวู (DAEWOO) จากก่อนหน้านี้ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เคยนำเสนอทาทา โนวัส (TATA NOVUS) ที่เป็นรถหัวลากรุ่นแรกที่ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย นำมาเปิดตัวและจำหน่ายในไทย เมื่อต้นปี 2556 แต่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นแดวู โนวัส (DAEWOO NOVUS) เพื่อต้องการให้ทราบถึงที่มาของรถหัวลาก เนื่องจากแดวู โนวัส เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดูซานนำเข้าจากโรงงานทาทา แดวู เกาหลีใต้

ขณะที่ ทาทา พริมา เป็นหัวลากจากโรงงาน ทาทา มอเตอร์ส ในอินเดีย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทยยังมีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายของผู้จำหน่ายรถทาทาในประเทศไทยอีกด้วย

หลัง 2 ปีศึกษาโรงงานรถนั่ง

นายซานเจย์ กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ลงทุนเพิ่มประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาส่วนต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต การสต็อกชิ้นส่วน การขยายเครือข่าย และการให้บริการหลังการขาย ทำให้ ณ ปัจจุบัน มียอดการลงทุนสะสมในประเทศไทยเกือบ 3,000 ล้านบาท

"จะเห็นว่าขณะนี้ทาทา เน้นทำแต่รถเพื่อการพาณิชย์ไม่มีรถนั่งในตลาด สำหรับกลุ่มรถยนต์นั่ง ในช่วง 2 ปีนี้ อาจจะยังไม่เห็นการขยายการลงทุน ในส่วนของโรงงาน แต่จะเป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปมาขาย เพื่อดูผลตอบรับในตลาด แต่ถ้าได้รับผลตอบรับที่ดีก็คิดถึงเรื่องการลงทุน ตลาดรถเก๋งนั้นทาทาอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้า เช่น เกียร์อัตโนมัติเนื่องจากในอินเดีย รถหลักเป็นรถเกียร์ธรรมดา แต่ในไทยนิยมเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งทาทากำลังพัฒนาเกียร์อัตโนมัติสำหรับรถนั่งโดยเฉพาะ รวมถึงรถทาทา นาโน ด้วยจะยังไม่จำหน่ายจนกว่าจะมีเกียร์อัตโนมัติในรถรุ่นใหม่"

นายซานเจย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาทาได้ ประกาศสร้างความมั่นใจให้ผู้จำหน่ายทาทาทั่วประเทศในการประชุมผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ 2557 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2558) โดยเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งบริษัทพร้อมจะพัฒนาในทุกๆ ด้าน

"ไม่เพียงแต่เรื่องของการขยายเครือข่าย เรากำลังปรับภาพลักษณ์ของทั้งผลิตภัณฑ์และองค์กรให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูม ที่เราจะตกแต่งเป็นโชว์รูมมาตรฐานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้ เป็นจุดสำคัญในการพัฒนาภาพลักษณ์ขององค์กรให้ทาทา มอเตอร์ส มีภาพลักษณ์ที่ทัดเทียมกับคู่แข่งขันในตลาด สร้างความน่าเชื่อถือ และแน่นอนว่าเรากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในตลาดกลุ่มใหม่ แต่ทาทาจะไม่มีวันทิ้งลูกค้าเดิม และพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างความประทับใจในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าเดิม เพื่อให้กลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ของเราอีก"

ทาทา มอเตอร์ส เป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย มีรายได้กว่า 3.47 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2555-2556 ซึ่ง ทาทา มอเตอร์ส มีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก ทั้งสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ไทย และสเปน รวมถึงแอฟริกาใต้และอินโดนีเซีย โดยควบรวมกิจการรถยนต์ชั้นนำของอังกฤษอย่างจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อีกทั้งยังบรรลุข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัทเฟียตในอินเดีย