ดาวโจนส์ร่วง 280 จุดกังวลตลาดบอนด์ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

ดาวโจนส์ร่วง 280 จุดกังวลตลาดบอนด์ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(5เม.ย.)ปรับตัวร่วงลง 280 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่ตลาดพันธบัตรยังคงส่งสัญญาณแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 280.70 จุด หรือ 0.80%  ปิดที่ 34,641.18 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 57.52 จุด หรือ 1.26% ปิดที่ 4,525.12 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 328.39 จุด หรือ 2.26% ปิดที่ 14,204.17 จุด

การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ทะลุแนว 35,000 จุดในช่วงแรก ก่อนที่จะปรับตัวลงในเวลาต่อมา

ด้านราคาหุ้นทวิตเตอร์ อิงค์พุ่งขึ้นขานรับข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ จะเข้าร่วมบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้ถือครองหุ้นบริษัทมากกว่า 9%

 ทั้งนี้ นายมัสก์จะเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ และจะสิ้นสุดวาระในปี 2567 ซึ่งในระหว่างที่เขายังคงดำรงตำแหน่งกรรมการในบอร์ดบริหาร หรือหลังจากพ้นตำแหน่งภายใน 90 วัน นายมัสก์จะไม่สามารถรับผลประโยชน์จากหุ้นสามัญของทวิตเตอร์จำนวนมากกว่า 14.9%

ข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) ระบุวานนี้ว่า นายมัสก์ได้ถือครองหุ้นในบริษัททวิตเตอร์จำนวน 73,486,938 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยมีมูลค่าราว 2.89 พันล้านดอลลาร์ ทำให้นายมัสก์กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของทวิตเตอร์ซึ่งไม่ได้เป็นผู้บริหารของบริษัท

นายมัสก์ได้เพิ่มการถือครองหุ้นในทวิตเตอร์ แม้ว่าเขาเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์บริษัทเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ต่อการที่บริษัทละเมิดหลักการพื้นฐานในการแสดงความเห็นอย่างอิสระ

ตลาดพันธบัตรสหรัฐยังคงเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.467% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.653% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.611% โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวอยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.465% ขณะที่พันธบัตรอายุ 30 ปีอยู่ที่ระดับ 2.524%

นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด

ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในอีกเพียงไม่กี่ปีถัดมา

ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.3 ในเดือนมี.ค. ใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 58.4 หลังจากแตะระดับ 56.5 ในเดือนก.พ.

ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่