"ไทย - เวียดนาม" ประกาศร่วมมือ ศก. ตั้งเป้าการค้า 2.5 หมื่นล้าน ปี68

"ไทย - เวียดนาม" ประกาศร่วมมือ ศก. ตั้งเป้าการค้า 2.5 หมื่นล้าน ปี68

"นายกรัฐมนตรีเวียดนาม" หารือ เพิ่มสิ่งแวดล้อมที่ดี ธุรกิจพลังงาน มุ่งกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทยในทุกระดับ ยืนยันความร่วมมืออำนวยความสะดวกขนส่งผลไม้ผ่านแดนให้คล่องตัว พร้อมยินดีการตั้ง ThaiCham ในฐานะก้าวสำคัญของภาคเอกชนไทยในเวียดนาม

การหารือระหว่างนายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับทวิภาคี อนุภูมิภาค และพหุภาคี โดยในด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความร่วมมือสร้างการค้าที่สมดุล ขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน เพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายทางการค้า 25,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568 และฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19 

นายนิกรเดช เสนอให้ไทยและเวียดนามร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งสินค้าเกษตรและผลไม้ผ่านเวียดนามไปยังจีน ให้มีความคล่องตัว โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลไม้ที่กำลังจะถึงนี้ โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามให้คำมั่นพร้อมอำนวยความสะดวกการผ่านแดนของสินค้าไทยเต็มที่

ในด้านการลงทุน เอกอัครราชทูตฯ ย้ำถึงการลงทุนของไทยในเวียดนามที่เพิ่มพูนขึ้นแม้ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยภาคเอกชนไทยจำนวนมากให้ความสนใจลงทุนในเวียดนาม รวมถึงการลงทุนในสาขาพลังงาน ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 3 ของการลงทุนของไทยในเวียดนามทั้งหมด

เอกอัครราชทูตฯ ขอให้เวียดนามสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้แก่นักลงทุนไทยสาขาพลังงานโดยเฉพาะพลังงานทดแทนที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เวียดนามบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ภายในปี ค.ศ. 2050 หากนักลงทุนไทยได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามอย่างเต็มที่

ไทยมุ่งหวังจะก้าวเป็นนักลงทุน Top 5 ในเวียดนามในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความยินดีกับการจัดตั้งหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม (ThaiCham) เพื่อขับเคลื่อนการค้าการลงทุนระหว่างกันต่อไป

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการกระชับความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงโดยเฉพาะ ACMECS โดยเอกอัครราชทูตฯ เสนอให้ไทยและเวียดนามเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานระหว่างอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศที่เกื้อกูลกัน ในขณะเดียวกัน เวียดนามพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยตลอดปี 2565