สนามบินจีนแห่ยกเลิกเที่ยวบินผวาเหตุโบอิง 737-800 โหม่งโลก

สนามบินจีนแห่ยกเลิกเที่ยวบินผวาเหตุโบอิง 737-800 โหม่งโลก

เว็บไซต์วาริไฟลท์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ติดตามข้อมูลการบินเปิดเผยว่า มีเที่ยวบินประมาณ 74% ของทั้งหมด 11,800 เที่ยวในจีนถูกยกเลิก รวมถึงเที่ยวบินส่วนใหญ่ระหว่างปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ ทั้งที่โดยปกติจะเป็นเส้นทางภายในประเทศที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การยกเลิกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เครื่องบินโดยสารโบอิง 737-800 NG ของสายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกแบบดิ่งหัวลงกระแทกพื้น จนเกิดไฟลุกไหม้ในหุบเขาใกล้กับหมู่บ้านโม่ล่าง อำเภอเถิงเซี่ยน เมืองอู๋โจว วานนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.38 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีผู้โดยสารบนเครื่อง 123 คน และลูกเรืออีก 9 คน รวม 132 คนซึ่งเสียชีวิตทั้งหมด นับเป็นเหตุเครื่องบินตกครั้งแรกในจีนนับตั้งแต่ปี 2553

ก่อนหน้านี้ การเดินทางด้วยเครื่องบินในจีนก็ถูกยกเลิกในระดับสูงอยู่แล้วจากมาตรการป้องกันโควิด-19 แต่ข้อมูลจากวาริไฟลท์บ่งชี้ว่า วันนี้มีอัตราการยกเลิกเที่ยวบินสูงที่สุดในปีนี้และสูงเป็น 2 เท่าของเมื่อต้นเดือนนี้
 

เที่ยวบินของสนามบินหงเฉียวทั้งหมด 35 เที่ยวจากเซี่ยงไฮ้ไปยังปักกิ่งสำหรับวันนี้ มี 2 เที่ยวบินที่ให้บริการไปแล้วในช่วงเช้าและอีก 3 เที่ยวบินมีกำหนดจะขึ้นบิน ส่วนเที่ยวบินอื่น ๆ ถูกยกเลิกทั้งหมด ขณะเดียวกัน เที่ยวบินทั้งหมด 34 เที่ยวจากปักกิ่งไปยังเซี่ยงไฮ้ในสนามบินเดียวกันนี้ มีเพียง 5 เที่ยวเท่านั้นที่ให้บริการตามกำหนด

ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานข่าวเช้าวานนี้ (22มี.ค.)หลังจากเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิง 737-800 สายการบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ตกกลางป่าบนเทือกเขาทางตอนใต้ของประเทศผ่านไป 18 ชั่วโมงว่า เจ้าหน้าที่พบซากเครื่องบินในที่เกิดเหตุ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตบนเครื่องบินที่ขาดการติดต่อ
 

เครื่องบินโบอิง737-800 ตกใกล้เมืองอู๋โจว ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง หลังเดินทางออกจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ เครื่องบินเกิดไฟลุกไหม้ขนาดใหญ่ที่สามารถเห็นได้จากภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซา

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า เกิดหลุมลึกบริเวณเชิงเขาจากเหตุเครื่องบินตก เจ้าหน้าที่จะใช้ทั้งโดรนและกำลังคนค้นหากล่องดำที่บันทึกข้อมูลการบินและกล่องดำที่บันทึกเสียงในห้องนักบินเพื่อหาสาเหตุที่เครื่องบินตก

ขณะที่เว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์24 รายงานว่า เครื่องบินไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 5735 กำลังบินด้วยความเร็ว 455 นอต ที่ระดับความสูง 29,000 ฟุต ในช่วงที่ดิ่งหัวลงอย่างรวดเร็วราวเวลา 14.20 ของน.วันจันทร์ตามเวลาในจีน เครื่องบินดิ่งลงสู่ระดับความสูง 7,400 ฟุต ก่อนรักษาระดับความสูงที่ 1,200 ฟุตได้ชั่วขณะแล้วก็ดิ่งลงอีกครั้ง จากนั้นหยุดส่งข้อมูลหลังจากเริ่มตกได้ 96 วินาที 

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน ระบุว่า บนเครื่องมีผู้โดยสาร 123 คน ลูกเรือ 9 คน เครื่องบินทำการบินได้ราว 1 ชั่วโมง เหตุเกิดในขณะที่ใกล้ถึงจุดที่ต้องลดระดับความสูงเพื่อเตรียมตัวลงจอดที่เมืองกวางโจว

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน สั่งให้ใช้ปฏิบัติการกู้ภัยอย่างเต็มกำลัง และสอบสวนหาสาเหตุที่เครื่องบินตกเพื่อให้การบินพลเรือนมีความปลอดภัยอย่างเต็มที่ 

สื่อทางการจีนรายงานว่า เครื่องบินโบอิง 737-800 ของไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ถูกสั่งห้ามขึ้นบินทุกลำ และผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จีนมีเครื่องบินรุ่นนี้มากที่สุดในโลกเกือบ 1,200 ลำ หากสายการบินจีนอื่น ๆ ถูกสั่งห้ามขึ้นบินเช่นเดียวกันจะกระทบต่อการบินในประเทศอย่างมาก

แม้เครื่องบินโบอิง 737 จะเป็นเครื่องบินโดยสารรุ่นยอดนิยมของบริษัทโบอิงที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย แต่ก็มีประวัติอุบัติเหตุเครื่องบินรุ่นนี้ตกมาแล้วหลายครั้งในระยะหลายปีที่ผ่านมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน

ด้านคณะกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี) เปิดเผยวานนี้ (21 มี.ค.) ว่า ได้มีการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางอากาศระดับอาวุโสเป็นตัวแทนที่ได้รับการรับรองเข้าร่วมการสอบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องบินโบอิงลำดังกล่าวแล้ว โดยมีตัวแทนจากบริษัทโบอิง รวมทั้งบริษัทซีเอฟเอ็มซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบิน

และผู้แทนขององค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิค ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่สหรัฐจะต้องส่งตัวแทนเข้าร่วมสอบสวนเหตุเครื่องบินตกในฐานะที่เป็นประเทศผู้ผลิตเครื่องบินลำดังกล่าว