'โจ ไบเดน'ประสานเสียงชาติตะวันตกคว่ำบาตร'ปูติน'

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย  บุคคลใกล้ชิดและเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างครอบคลุมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ เพื่อลงโทษที่ผู้นำรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี(24 ก.พ.) 

ประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ตกลงที่จะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรในลักษณะเดียวกัน

โดยเริ่มจากอายัดทรัพย์และตัดความสัมพันธ์ธนาคารชั้นนำของรัสเซีย 10 แห่ง ตัดกระแสเงินของธนาคารเหล่านี้ต่อตลาดเงินตราของสหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 80% ของสินทรัพย์ในภาคการธนาคารของรัสเซีย ครอบคลุมถึงหนึ่งในสถาบันการเงินใหญ่สุดของรัสเซียคือ ‘สเบอร์แบงก์’ ที่ถือครองทรัพย์สินเกือบ 1 ใน 3 ของภาคธนาคารโดยรวมของรัสเซีย

นอกจากนี้ ยังมีสถาบันการเงินรายใหญ่อื่น ๆ อีกหลายแห่งได้แก่ VTB Bank, Bank Otkritie, Sovcombank OJSC และ Novikombank ซึ่งจะถูกตัดความสัมพันธ์ในทุกรูปแบบกับระบบการเงินของสหรัฐ รวมทั้งปิดกั้นการเข้าถึงสินทรัพย์ในสหรัฐ เช่นเดียวกับพลเมืองของสหรัฐ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกรรมใด ๆ กับธนาคารดังกล่าว

สหรัฐยังห้ามรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของรัสเซีย 13 แห่ง ที่รวมถึงบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียอย่าง ก๊าซพรอม , ธนาคารเพื่อการเกษตรรัสเซีย และการทางรถไฟรัสเซีย ระดมทุนในตลาดสหรัฐด้วย

นอกจากสถาบันการเงินแล้ว มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐยังพุ่งเป้าไปที่บรรดาคณะบุคคลใกล้ชิดผู้นำรัสเซีย โดยหนึ่งในบรรดาบุคคลที่ถูกอายัดบัญชีและกีดกั้นการทำธุรกิจธุรกรรมมีนักธุรกิจมหาเศรษฐีที่รวยติดอันดับโลกของนิตยสารฟอร์บส 3 รายด้วยกันคือ เกนนาดี ทิมเชนโก, บอริส โรเตนเบิร์ก และ อิกอร์ โรเตนเบิร์ก 

ประธานาธิบดีไบเดน ยังประกาศคว่ำบาตรเพิ่มเติมไม่ให้รัสเซียเข้าถึงสินค้าหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนเครื่องบินและเซมิคอนดักเตอร์ ควบคุมการส่งออกสินค้าให้กับรัสเซีย โดยหวังว่าจะสร้างผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมหลักของรัสเซีย